ปูอัด (Imitation Crab) มีกี่แคลและทำมาจากอะไร?
ปูอัด (Imitation Crab) น่าจะเป็นเมนูโปรดสำหรับใครหลายๆคน เพราะมีรสชาติอร่อย ราคาถูก และปูก็เป็นอาหารทะเลที่มีประโยชน์ด้วย
แต่จริงๆแล้ว ปูอัดอาจจะไม่ได้ทำมาจากเนื้อปูอย่างที่เราเข้าใจ และบางยี่ห้อก็อาจจะมีการเติมแป้ง และส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำตาล สีผสมอาหาร และเครื่องปรุงรส เข้าไปด้วย
ในบทความนี้ ผมโค้ชเค จะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ “ปูอัด” ว่ามันคืออะไร ให้พลังงานกี่แคลอรี่ และกินเยอะๆจะทำให้อ้วนไหม ตามมาเลยครับ
ปูอัด (Imitation Crab) คืออะไร?
ปูอัด มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Imitation Crab” ซึ่งความหมายตรงตัวของคำว่า Imitation คือ “เลียนแบบ” ดังนั้น ปูอัดเป็นอาหารที่เลียนแบบเนื้อปู (จริง) นั่นเองครับ
จริงๆแล้วปูอัดทำมาจากเนื้อปลาหลายชนิด ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตใส่เนื้อปลาเข้าไปกี่เปอร์เซ็นต์ (ยิ่งเยอะยิ่งแพง)
ผมก็ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนตั้งชื่อคนแรก เพราะปูอัดไม่มีส่วนผสมของเนื้อปูเลย จะมีบ้างก็แต่สารแต่งกลิ่นให้เหมือนกับเนื้อปูเท่านั้นเอง
ปลาที่นำมาผลิตจะมีชื่อเรียกรวมกันว่า ซูริมิ (Surimi) ซึ่งก็คือเนื้อปลาบดละเอียดสีขาว ไม่มีก้าง และไม่มีไขมัน นิยมนำมาแช่แข็งเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหาร เช่น ปูอัด ลูกชิ้น และเต้าหู้ปลา เป็นต้นครับ (1)
วัตถุดิบในการทำปูอัดจะต่างกันไปในแต่ละประเทศ เช่น ในบ้านเราจะนิยมใช้ปลาทรายแดง ปลาไส้กอ ปลาตาหวานจุด ปลาฤาษี ปลาจวด และปลาแป้นยักษ์ เป็นต้น
ปูอัด (ปลอม) vs ปลูกจริง
แน่นอนว่า ปูที่เป็นตัวก็ต้องมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าอยู่แล้ว
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เรามาดูตารางเปรียบเทียบสารอาหารระหว่าง ปูอะลาสก้า (Alaska King Crab) และปูอัด ในปริมาณ 85 กรัม เท่ากันครับ
RDI = ปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ปูอัด | ปูอะลาสก้า | |
---|---|---|
พลังงาน | 81 แคลอรี่ | 82 แคลอรี่ |
โอเมก้า 3 | 25.5 มิลลิกรัม | 389 มิลลิกรัม |
คาร์โบไฮเดรต (รวม) | 12.7 กรัม (น้ำตาล 5-6 กรัม) | 0 กรัม |
โปรตีน | 6.5 กรัม | 16.4 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 17 มิลลิกรัม | 45 มิลลิกรัม |
โซเดียม | 715 มิลลิกรัม | 911 มิลลิกรัม |
วิตามินบี 12 | 8% RDI | 163% RDI |
ธาตุทองแดง | 1% RDI | 50% RDI |
ซีเรเนียม | 27% RDI | 49% RDI |
ธาตุสังกะสี | 2% RDI | 43% RDI |
จริงอยู่ครับที่ว่าปริมาณพลังงานแคลอรี่นั้นเกือบจะเท่ากันเลย แต่กว่า 85% ของพลังงานแคลอรี่ที่ได้จากปูอะลาสก้าจะมาจากโปรตีน ในทางกลับกัน 61% ของพลังงานแคลอรี่ที่ได้จากปูอัดจะมาจากแป้ง (คาร์บ) ครับ
อีกอย่าง ปูเป็นอีกหนึ่งอาหารทะเลที่พร่องแป้งและมีโปรตีนสูง ซึ่งเหมาะมากๆสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักสูตรพร่องแป้ง เช่น คีโต (กินไขมันเพื่อลดไขมัน) ครับ
อีกอย่าง ถ้าเราดูปริมาณสารอาหารรอง (Micronutrients) จะเห็นเลยว่า เนื้อปูให้สารอาหารรองที่มีประโยชน์มากกว่า โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ที่คนส่วนใหญ่จะขาดครัรบ
หลังๆผมสังเกตว่า ปูอัดบางยี่ห้อจะมีการเพิ่มกรดไขมันโอเมก้า 3 จากปลาเข้าไปด้วย แต่ถึงอย่างไรคุณภาพและประโยชน์ก็ยังสู้โอเมก้า 3 ที่ได้จากเนื้อปูไม่ได้ครับ (2)
ปูอัดทำมาจากอะไรกันแน่?
อย่างที่ผมเกริ่นไปครับว่า ส่วนประกอบหลักจะเป็นปลาและปริมาณก็ต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ โดยทั่วไปประมาณปลาจะอยู่ที่ 35-65% ครับ
เรามาดูกันต่อเลยครับว่า ปูอัดมีส่วนผสมอะไรบ้างนอกจากเนื้อปลา
- น้ำ (Water): น้ำคือส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มขนาดปูอัด และมีปริมาณมากที่สุดรองจากเนื้อปลา
- สตาร์ช (Starch): สตาร์ช (3) ที่ใช้ส่วนใหญ่จะได้มาจากมันและข้าวสาลี สตาร์ชจะช่วยให้เนื้อปูอัดแน่นขึ้น แต่ถ้าบางยี่ห้อถ้าใส่มากไปเนื้อปูอัดก็จะเหนียวและนุ่มเกินไปครับ
- โปรตีน (Protein): โปรตีนที่นิยมใช้มากที่สุด คือ โปรตีนจากไข่ขาว หรือบางยี่ห้อก็จะใช้โปรตีนจากถั่วเหลืองด้วย
- น้ำตาล (Sugar): น้ำตาลนอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติแล้ว มันยังช่วยให้ปูอัดคงสภาพเดิมระหว่างที่แช่แข็งและตอนละลายน้ำแข็งด้วย
- น้ำมันพืช (Vegetable Oil): บางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของน้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันดอกทานตะวัน ด้วย เพื่อช่วยยืดอายุ และเพิ่มสีสันให้น่ารับประทาน
- เกลือ (Salt/Sodium Chloride): เกลือเป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้เลย เพราะทั้งช่วยเพิ่มรสชาติและช่วยให้เนื้อปลาจับตัวกันได้ดีขึ้น
นี่คือส่วนประกอบหลักครับ บางยี่ห้อที่ราคาถูกๆหน่อยก็อาจจะมีสารกันบูด สีผสมอาหาร และสารแต่งกลิ่นอาหารเข้าไปด้วย
หลังจากที่ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้ว ปูอัดก็จะถูกบีบให้เข้ารูปตามที่ต้องการ ใส่บรรจุภัณฑ์ ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และส่งออกขายครับ
ข้อดีของปูอัด
เหตุผลแรกที่ปูอัดเป็นที่นิยมมากก็เป็นเพราะมีราคาถูกกว่าเนื้อปูกว่า 70%
ปูอัดยังเป็นอาหารที่เพิ่มความสะดวก เพราะไม่ต้องเตรียมอะไรมาก บางคนแค่มีปูอัดกับน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ก็เพียงพอแล้ว
ที่จริงปูอัดก็เหมือนกับฮอทดอก (Hot Dogs) ครับ ที่มีทั้งแบบที่ดีต่อสุขภาพและแบบที่มีแต่สารเคมี ดังนั้น เราต้องเลือกยี่ห้อที่บอกส่วนผสมอย่างชัดเจน และเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมของเนื้อปลามากที่สุดครับ
ข้อควรระวัง
การสำแดงส่วนผสมของอาหารในบ้านเราอาจจะยังไม่ได้มาตรฐานมาก บางทีปูอัดอาจจะมีส่วนผสมที่อาจจะทำให้เราแพ้ได้ ดังนั้น ถ้าใครที่แพ้อาหารทะเล หรือแพ้อาหารบ่อยๆ ควรเลี่ยงปูอัดที่ไม่ติดยี่ห้อและบอกส่วนผสมครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (My Two Cents)
อย่างที่เห็นครับ ปูอัด (Imitation Crab) ผลิตจากปลาหลากหลายชนิดรวมกันและยังมีส่วนผสมอื่นๆด้วย โดยเฉพาะน้ำตาล
ที่สำคัญปูอัดไม่มีส่วนผสมของเนื้อปูเลย ดังนั้น ปูอัดจึงถือว่าเป็นอาหารแปรรูประดับต้นๆเลยครับ
แน่นอนว่าปูอัดมีราคาถูกกว่าเนื้อปู (หรือเนื้อปลา) แต่ราคาที่ถูกก็อาจจะมาพร้อมกับส่วนผสมที่อาจจะมีผลต่อสุขภาพและน้ำหนักตัวได้
ท้ายสุด ถ้าคิดจะซื้อปูอัดมากิน ควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีการแจ้งส่วนผสมข้างบรรจุภัณฑ์ชัดเจน และอย่าลืมเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมของเนื้อปลาเยอะที่สุดด้วยนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกด Share ก่อนไปด้วยนะครับ