หิว แต่อยากกินแต่ขนม หิวกับอยากต่างกันยังไง?
หิว แต่ก็ไม่อยากกินข้าว อยากกินแต่ของกินอร่อยๆที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นกันบ้างไหมครับ หรือว่าไม่เคยสังเกตุตัวเอง? ถ้าเราใช้อารมณ์ในการตัดสินใจหยิบอะไรเข้าปากเมื่อไหร่ นั่นคือ ความอยาก เราต้องรู้ว่าอารมณ์ 2 อย่างนี้ต่างกันยังไง เพื่อไปถึงเป้าหมายในการลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น และจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ
หิว vs อยาก
เหตุผลที่เราอยากกินของรสชาติถูกปาก (หวาน มัน และเค็ม) ส่วนใหญ่จะเกิดจากอารมณ์ตอนนั้น เช่น หงุดหงิดเพราะนอนน้อยเกินไป กำลังโมโหเพื่อนอยู่ กำลังมีความสุข หรือกำลังเครียดเรื่องงาน
ทุกคนมีความอยากที่จะกินของกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้นแหละครับ และของกินที่คนส่วนใหญ่ชอบที่สุดคือ ช็อกโกแลต (เพราะมีน้ำตาลกับไขมันที่สูง) วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ มีสติและลองสังเกตุปฏิกิริยาของร่างกายเราว่า ท้องเราว่างและหิวจริงๆหรือเปล่า เรากินอาหารน้อยเกินใช่ไหม และสิ่งสำคัญต่อมาคือ เราต้องรู้ความแตกต่างระหว่างความหิวและความอยาก
ลักษณะของ ความ “อยาก”
- ไม่หิว แต่อยากกินของกินที่แคลอรี่สูงๆ เช่น ช็อกโกแลต ขนมหวาน และของทอด
- มีอารมณ์ที่แปรปรวญ ส่วนใหญ่จะเป็นอารมณ์ด้านลบ เช่น ผิดหวังและเครียด
- พอได้กินของที่อยากกินแล้วรู้สึกมีความสุข (ในช่วงแรก) ต่อมาก็รู้สึกผิด และหงุดหงิดกับความใจอ่อนของตัวเอง
- จะเพิ่มมากขึ้นในผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน หรือกำลังตั้งครรภ์
- จะเพิ่มขึ้นตอนอดอาหารและลดปริมาณแคลอรี่ ยิ่งคนไหนที่งดกินของที่ตัวเองชอบ ความอยากจะชนะเสมอ
- พอเราเอาสมาธิไปจดจ่อกับอย่างอื่น ความอยากก็จะหายไป
ลักษณะของความ “หิว”
- ส่วนใหญ่จะมาจากการที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเป็นเวลาหลายๆชั่วโมงติดต่อกัน
- ท้องร้อง อาจจะมีอาการวิงเวียนศรีษะด้วย และรู้สึกไม่มีแรง
- ยิ่งปล่อยไว้นานยิ่งอยากกิน
- อารมณ์ประมาณว่า “ขอให้มีอะไรตกถึงท้องก็พอ” ไม่ใช่ “ขอเป็น KFC”
- จะหายไปทันทีแค่ได้กินของที่ดีต่อสุขภาพ
ทิ้งท้ายก่อนไป
ถ้ารู้ว่าตัวเองมีความ “อยาก” เราต้องหาอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ และท่องไว้เลยว่า “กินแล้วอ้วน กินแล้วอ้วน กินแล้วอ้วน” หรือโทรหาเพื่อน ฟังเพลง เดินเล่นดูของอย่างอื่น ก็จะช่วยได้เยอะเหมือนกัน ห้ามเด็ดขาดนะครับ ไอ้ความคิดที่ว่า “กินไปก่อนเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” เพราะถ้ามีคำแรกก็มีคำที่สอง เผลอแป๊บเดียว โดนัทหมดไปเป็นกล่องแล้ว
เวลาออกไปข้างนอก ถ้าเป็นไปได้ควรกินให้อิ่มท้องก่อนออกจากบ้าน ควรมีการวางแผนการซื้อของเพื่อไม่ให้ซื้อของสะเปะสะปะ ใครที่ต้องอยู่ในรถเป็นประจำ ควรหาของกินเล่นติดรถไว้เลย เช่น ผลไม้สด ถั่วเขียวอบ หรือเม็ดธัญพืช เวลาหิวเมื่อไหร่ก็หยิบกินได้ทันที