แอลกอฮอล์ ทำให้อ้วนไหม?
สวัสดีครับโค้ชเค Fitterminal.com เพื่อนๆคนสงสัยไหมครับว่า ช่วงลดไขมันเราควรเลิกดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยไหม และถ้าเราจะดื่ม เราควรดื่มเท่าไหร่ถึงจะพอดี?
Gin & Tonic ที่เราดื่มไป เบียร์ 1-2 กระป๋องที่ดื่มวันเสาร์อาทิตย์ หรือไวน์แดงแก้วนั้นหลังอาหารเย็น มันจะทำให้เราอ้วนหรือเปล่า?
วันนี้ผมโค้ชเคจะมาตอบทุกคำถามเกี่ยวการดื่มแอลกอฮอล์ และการลดไขมัน ตามมาเลยครับ
ลดไขมัน ต้องงดแอลกอฮอล์ไหม?
เท่าที่ผมสังเกต ทั้งกับนักเรียนและเพื่อนๆผู้หญิงพบว่า จะมีการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเพราะการพบปะสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อน ดื่มเองหลังอาหารเย็น หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะงาน
พอดื่มไปเยอะๆ ก็อาจจะทำให้เพื่อนๆสับสนได้ว่า ที่อ้วนขึ้นมันเป็นเพราะแอลกอฮอล์ หรือเพราะเราไม่ควบคุมอาหารกันแน่?
ก่อนอื่นเลยนะครับ เรามาดูกันครบว่า การดื่มแอลกอฮอล์มีข้อดียังไงบ้าง?
ข้อดีของการดื่มแอลกอฮอล์
ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนเคยได้ยินที่เขาบอกว่า การดื่มแอลกอฮอล์ปานกลาง “Moderate Alcohol Intake” มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน และโรคหวใจได้
ดารา Hollywood บางคนก็ดื่มไวน์วันละ 1-2 แก้ว เพื่อรักษาสุขภาพหัวใจ และงานวิจัยก็ยืนยันมาด้วยว่า การดื่มแบบเบาๆ “Light Drinking” มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ถึง 25-40%
ท้ายสุดจากประสบการณ์ตัวเราเอง เราอาจจะเห็นว่าคนที่ดื่มหนักๆ เหมือนจะอายุยืนมากกว่าคนที่ไม่ดื่มอีก
ถึงแม้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะมีข้อดีบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยดื่ม ผมไม่แนะนำให้เริ่มดื่ม เพื่อที่จะได้ประโยชน์ที่เกริ่นไปครับ
นั่นเป็นเพราะว่า ยังไม่มีใครรู้ว่าเราควรดื่มแอลกอฮอล์มากแค่ไหนถึงจะได้ผลดี และร่างกายเราเองก็อาจจะตอบสนองต่อแอลกอฮอล์ในทางลบได้
จริงๆแล้วงานวิจัยต่างๆ ไม่ได้พิสูจน์โดยตรงๆว่า แอลกอฮอล์มีผลทำให้สุขภาพดีขึ้น มันเป็นแค่การสังเกตการณ์เท่านั้น และสันนิษฐานไปว่า ข้อดีต่างๆเกี่ยวกับสุขภาพ มันน่าจะเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์
เช่น คนที่ดื่มไวน์ทุกวันแล้วสวยสุขภาพดี เขาอาจจะควบคุมอาหารได้ดี ไม่เคยมีลูกมาก่อน งานไม่เครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ได้
สิ่งหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันมาแล้วก็คือ ถ้าเราอยากลดไขมัน และมีสุขภาพดีไปด้วย เราต้องดื่มแค่เบาๆไปถึงปานกลาง หรือ “Light to Moderate”
เรามาดูกันครับว่าที่เขาบอกว่าดื่มเบาไปหาปานกลาง มันคือไวน์กี่แก้ว หรือเบียร์กี่กระป๋องกันแน่
ปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อลดไขมัน สำหรับผู้หญิง
สิ่งที่เราต้องรู้ตอนนี้ก็คือ แอลกอฮอล์ 1 กรัม จะให้พลังงาน 7 แคลอรี่
และองกร Dietary Guidelines Advisory Committee ของประเทศอเมริกา เขาแนะนำนะครับว่า ผู้หญิงควรดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 7 แก้วต่ออาทิตย์ และต่อวันควรดื่มไม่เกิน 3 แก้วเท่านั้น
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น เรามาดูกันครับว่า เครื่องดื่ม 1 แก้วของแอลกอฮอล์แต่ละชนิด มีดังนี้ครับ
- เบียร์ 5% ปริมาณ 350 มล. 1 แก้ว
- ไวน์ 12% ปริมาณ 150 มล. 1 แก้ว
- Fortified Wine ดีกรีสูง 18% ปริมาณ 90 มล. 1 แก้ว
- เหล้า 40% เช่น รัม วอดก้า และจิน ปริมาณ 45 มล. 1 แก้ว
เพื่อนๆจะเห็นแล้วนะครับว่า ถ้าอยากสุขภาพดี และหุ่นไม่พัง ปริมาณแอลกอฮอล์ที่คววรดื่มไม่ได้เยอะเลย
และจากการศึกษาพบว่า เรามันจะคิดว่าเราดื่มน้อย แต่จริงๆ เราดื่มเยอะเกินไปจนจัดอยู่ในกลุ่มดื่มหนัก “Heavy Drinker”
ยกตัวอย่างเช่น วันจันทร์เราดื่มไวน์ 1 แก้วหลังอาหาร วันพุธเรามีเบียร์ และวันเสาร์อาทิตย์ เราอาจจะดื่มไวน์ 2 แก้ว และ Gin & Tonic อีก 2 แก้ว เราก็จะจัดอยู่ในกลุ่มที่ดื่มเยอะเกินไป
ซึ่งการดื่มแอลกอฮอล์เยอะเกินไปนะครับ มี 6 ผลเสียหลักๆดังนี้ครับ
- หัวใจ เช่น ทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเสี่ยงเป็นโรคไตด้วย
- สมอง เช่น ทำให้เกิดความเครียด ติดดื่มแอลกอฮอล์ และมีผลต่อความจำ
- ภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น ทำให้ป่วยง่าย ติดเชื้อในลำไส้ และเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น
- ระดับฮอร์โมน เช่น ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน และฮอร์โมนไทรอยด์มีปัญหาได้
- ตับ เช่น เสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ ตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในที่สุด
- ระบบเผาผลาญ เช่น ทำให้ผู้หญิงสูญเสียมวลกระดูก ระบบเผาผลาญพัง และสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เป็นต้น
เรามาดูกันต่อครับว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์ไป
แอลกอฮอล์ ดื่มไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
สำหรับร่างกายเรา แอลกอฮอล์คือยาพิษหรือสารแปลกปลอมที่ต้องกำจัดออกไปทันที ดังนั้น เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์ไป ร่างกายจะหลั่งเอนไซม์ออกมา (Alcohol Dehydrogenase/ADH & Aldehyde Dehydroganase/ALDH) เพื่อที่จะเปลี่ยนแอลกอฮอล์ให้เป็น คาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ก็ คือ ถ้าเราดื่มเข้าไปเยอะๆ ร่างกายเราจะผลิตเอนไซน์ม ากำจัดแอลกอฮอล์ก่อนเป็นอันดับแรก
ทำให้กระบวนการอื่นๆ และส่วนอื่นๆของร่างกาย ไม่ได้รับการดูแลเลย เช่น การย่อยอาหาร การป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ และภูมิคุ้มกันต่างๆ
นี่คือก็เหตุผลที่ว่า ทำไมเวลาเรากินอะไรพร้อมกับการดื่มแอลกอฮอล์ เราจะลงพุงและอ้วนได้ง่ายมากๆ
ทั้งหมดที่เกริ่นมา มันไม่ได้หมายความว่าเราควรงดแอลกอฮอล์ไป การดื่มแอลกอฮอล์มันก็เหมือนกับการกินอาหารเพื่อลดความอ้วนนี่แหละครับ เราต้องรู้ว่าเราดื่มเพราะอะไร เราพยายามมีสติ และควบคุมปริมาณให้เหมาะสม
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เราสามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ในปริมาณที่เหมาะสม ในบางโอกาสได้ ถ้าการดื่มแอลกอฮอล์มันทำให้ชีวิตเรามีความสุข และสุขภาพเราดีขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องหยุดดื่ม หรือตัดแอลกอฮอล์ไป
แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะครับ เราก็ไม่ควรจะเริ่มดื่มเพราะความเครียด เพราะเป็นนิสัยส่วนตัว หรือเพียงเพราะเห็นคนอื่นดื่มแล้วคิดว่าเราก็ควรดื่มเหมือนกัน
ตอนนี้ ผมอยากให้เพื่อนๆลืมประโยชน์และข้อเสียของการดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยดีกว่าครับ แล้วเรามาใส่ใจกับการควบคุมปริมาณให้พอดี และเหมาะกับเราดีกว่า
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเราอยากมีหุ่นลีน บางทีเราก็อาจจะดื่มไวน์ลงเหลือแค่ 1 แก้ว จากที่เคยดื่มคืนละ 3-4 แก้ว
ประเด็น คือ เราพยายามปรับให้มันพอดี มีสติในการดื่ม และเข้ากับตัวเรามากกว่าที่จะเกินเพิ่ม หรือตัดแอลกอฮอล์ออกไปเลย
ต่อมาผมแนะนำให้เพื่อนๆทำตาม 3 คำแนะนำดีๆนี้ครับ
- สังเกตพฤติกรรมการดื่มของเรา ว่าตอนนี้เราดื่มพอดีไหม มากเกินไปหรือเปล่า ควรลดการออกไปข้างนอกเพื่อปาร์ตี้ไหม หรือควรลดแอลกอฮอล์ชนิดไหนลงบ้าง?
- สังเกตว่าแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายเราเปลี่ยนแปลงไปยังไง เรารู้สึกดีไหม เราสามารถควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และนอนหลับได้ดีเหมือนเดิมหรือเปล่า
- สังเกตว่าแอลกอฮอล์มีผลต่อจิตใจเราอย่างไรบ้าง เราควบคุมตัวเองได้ไหม หรือว่าหยุดไม่อยู่ และถ้าเราหยุดดื่มไปเลย 1 อาทิตย์ เราจะรู้สึกยังไงบ้าง เป็นต้นครับ
เพื่อนๆครับ ไม่ว่าจะเป็นการดื่มแอลกอฮอล์ การลดน้ำหนัก และลดไขมัน ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเท่านั้น
เราโตแล้ว เราควรมองไปข้างหน้าครับว่า การที่เราดื่มหรือไม่ดื่ม มันส่งผลยังไงบ้างกับชีวิตเรา เพราะท้ายสุด เราตัวเราเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรที่ดีที่สุดครับ
ถ้าเพื่อนๆยังมีคำถามหรือข้อสงสัย คอมเมนต์มาได้เลย แล้วผมจะเข้ามาตอบทุกคอมเมนต์
ท้ายสุด ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากจะปรึกษาเกี่ยวกับการทำ Intermittent Fasting การลดน้ำหนัก และลดไขมัน แบบถูกวิธี
แอดไลน์ตามลิ้งก์ด้านล่าง มาคุยกันและปรึกษาก่อนได้ฟรี ถ้าเคมีเราตรงกัน แล้วอยากเทรนออนไลน์ ผมก็มีคอร์สที่เหมาะสมกับความฟิตทุกระดับของเพื่อนๆครับ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
LINE@ | Facebook | Instagram |YouTube