CBD Oil คืออะไร…ช่วยลดน้ำหนักได้ไหม?
CBD Oil ชื่อภาษาไทย คือ น้ำมันกัญชา ถ้าชื่อเต็มๆจะเป็น Canabidiol และเขาก็ย่อให้เข้าใจง่ายๆก็จะเป็น CBD ครับ
น้ำมันกัญชา เป็นสารสกัดที่ได้จากต้นกัญชา (Cannabis Sativa) ใช่ครับ…พืชที่กำลังถกเถียงกันอยู่ว่า ควรทำให้ถูกกฎหมายได้หรือยังนั่นแหละ
ตอนนี้ผลิตภัณฑ์หลายยี่ห้อ เช่น ยาแก้อาการเจ็บคอ สเปรย์ ครีมทาผิว อาหารเสริมลดน้ำหนัก และอื่นๆอีกมากมาย เริ่มมีการนำน้ำมันกัญชามาเป็นส่วนผสมทั้งนั้น เพราะน้ำมันกัญชาเชื่อว่ามีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ลดความเครียด ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการเจ็บปวด ช่วยให้สมองและหัวใจแข็งแรง เป็นต้น
แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า น้ำมันกัญชา หรือ CBD Oil ก็มีส่วนช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันได้เหมือนกัน และวันนี้ ผมโค้ชเค จะพาทุกคนไปรู้คำตอบพร้อมกันครรับ
CBD Oil หรือ น้ำมันกัญชา คืออะไร?
CBD (Cannabinoids) หรือ น้ำมันกัญชา คือ 1 ในกลุ่มของสารสกัดกว่า 100 ชนิดที่พบในกัญชาครับ และก็เป็นส่วนประกอบหลักที่มีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก THC (Tetrahydrocannabinol) หรือสารที่ทำให้เราเมากัญชานั่นเอง
น้ำมันกัญชา (CBD) จะต่างกันกับสาร THC ตรงที่ น้ำมันกัญชาจะไม่ทำให้เราเมาเหมือนสาร THC แต่มีแต่ประโยชน์เท่านั้น
จากการศึกษา (1) พบว่า น้ำมันกัญชาไม่ได้ทำให้เราเมา แต่จะเข้าไปกระตุ้นสาร 1 ตัวของสมองอยู่ได้นานขึ้น ผลที่ได้ คือ เรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลง เครียดน้อยลง และลดการอักเสบด้วยครับ
เจ้าสารที่ว่านั้น คือ อะนันดาไมด์ (Anandamide) หรือที่ผมเรียกว่า “สารลืมทุกข์” งานวิจัยพบว่า (2) น้ำมันกัญชาจะเข้าไปช่วยให้อะนันดาไมด์อยู่ในร่างกายได้นานขึ้น ซึ่งยิ่งสารนี้อยู่ในร่างกายนานเท่าไหร่ เราจะเจ็บปวด เครียด หรืออักเสบน้อยลงหรือสั้นลงเท่านั้นครับ
นอกจากนี้ น้ำมันกัญชา ยังกระตุ้นให้ร่างกายหลั่ง ไซโตไคน์ (Cytokines) หรือโปรตีนขนาดเล็กที่มีส่วนในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดอาการเจ็บปวด และลดอาการอักเสบด้วยครับ
จริงๆส่วนตัวผมคิดว่า การศึกษาในคนเกี่ยวกับข้อดีของน้ำมันกัญชายังคงต้องมีมากกว่านี้ ถ้าใครคิดอยากจะลองนำมารักษาโรค ก็ควรปรึกษาแพทย์และหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียดจะดีที่สุดครับ
น้ำมันกัญชา (CBD Oil) ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
น้ำมันกัญชาถูกนำมาใช้เพื่อช่วยลดน้ำหนักด้วยครับ เรามากันดีกว่าว่ามันเกี่ยวอะไรกันและได้ผลหรือเปล่า!
ในช่วงแรกๆของการวิจัยพบว่า น้ำมันกัญชาอาจจะช่วยลดความอยากอาหารลง และเราก็จะกินน้อยลง นอกจากนี้น้ำมันกัญชายังจะเข้าไปเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ หรือ Metabolism ด้วย ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้มีผลโดยตรงต่อการลดน้ำหนักและไขมัน
เช่นงานวิจัยชิ้นนี้ที่พบว่า (3) หนูทดลองที่ถูกฉีดน้ำมันกัญชาเข้าไปในปริมาณ 1.1 มิลลิกรัม และ 2.3 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ เป็นเวลา 2 อาทิตย์
หลังจบการทดลองพบว่า หนูทั้ง 2 กลุ่มมีน้ำหนักลดลง และเขายังสรุปมาด้วยว่า ยิ่งเพิ่มขนาด (Dosage) มากขึ้น น้ำหนักยิ่งลดลงเร็วขึ้นเท่านั้น
แต่ที่เขาทดลองกับหนูคือการฉีดน้ำมันกัญชาเข้าไป ไม่ใช่การกินนะครับ ผมว่าอาจจะต้องรอให้ทดลองกับคนมากกว่านี้ และถ้ามีแบบกินที่ได้ผลเหมือนแบบฉีดจะดีมาก
น้ำมันกัญหา เปลี่ยนไขมันให้เป็น “สีน้ำตาล”
จำได้ไหมครับที่ผมเคยเขียนบทความ “ไขมันมีกี่ชนิด” ผมได้อธิบายไปว่า ในร่างกายเราไขมันจะมีทั้งสีขาวและสีน้ำตาล
ถ้าเรามีไขมันสีขาวเยอะๆ เราก็จะป่วยง่ายเพราะไขมันจะทำให้ป่วยเป็นโรคหวาน ไขมันพอกตับ และโรคหัวใจได้
แต่ในทางกลับกัน ไขมันสีน้ำตาล จะต่างกันตรงที่เป็นตัวเพิ่มความร้อน กระตุ้นให้ร่างการเราเผาผลาญพลังงาน (ไขมัน) มากขึ้น ถ้าใช้กล้องส่องเข้าไป คนผอมหรือคนหุ่นดี จะมีไขมันสีน้ำตาลมากกว่าคนอ้วนครับ
โดยทั่วไป ถ้าเราจะเปลี่ยนไขมันสีขาวให้กลายมาเป็นไขมันสีน้ำตาล ทางเลือกมีไม่เยอะครับ เราต้องออกกำลังกาย นอนให้เพียงพออย่างน้อย 7 ชั่วโมง/วัน และย้ายไปอยู่แถวๆขั้วโลกเพื่อรับอากาศหนาว (แค่นี้เอง…)
แต่ตอนนี้เราอาจจะมีหวังมากขึ้น เพราะงานวิจัยชิ้นนี้สรุปมาว่า (4) น้ำมันกัญชาสามารถช่วยเปลี่ยนให้ไขมันสีขาวกลายมาเป็นไขมันสีน้ำตาลได้
ไม่เพียงแค่นั้นครับ น้ำมันกัญชายังช่วยกระตุ้นการสร้างยีนส์และโปรตีนจำเพาะ ที่มีส่วนผลิตไขมันสีน้ำตาลมากขึ้น
แต่ตอนนี้ก็รอๆกันไปก่อนนะครับ เพราะงานวิจัยยังมีจำกัด แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ
แล้วน้ำมันกัญชาทำให้กินเยอะและอ้วนไหม?
อันนี้งานวิจัยจะขัดแย้งกันมากครับ เพราะผลข้างเคียงจากการใช้น้ำมันกัญชา คือ เราอาจจะกินอาหารอร่อยและกินได้มากขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการทดลองในคน (5) ซึ่งผู้เข้าทดลองก็คือเด็กที่เป็นโรคลมชัก (Epilpsy) พ่อแม่เด็กรายงานว่า อาการโรคลมชักลดลงจริง แต่กว่า 30% ของเด็ก 117 คน กลับมีความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ได้รับน้ำมันกัญชา
แต่งานวิจัยต่อมากลับพบว่า เด็กทั้ง 23 คน ที่เข้าร่วมการทดลอง มีระดับความอยากอาหารไม่เท่ากัน กลุ่มหนึ่งรายงานว่าความอยากอาหารลดลง แต่อีกกลุ่มกลับกินอาหารมากขึ้น (6)
ผมเข้าใจครับว่าอารมณ์คนอยากผอม คือ ต้องเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เท่านั้น แต่สำหรับน้ำมันกัญชา ผมว่าเรารอไว้ก่อนดีกว่า รอให้เขาวิจัยให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่านี้ครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (My Two Cents)
ตอนนี้การศึกษาและผลสรุปจากงานวิจัยที่เกี่ยวกับน้ำมันกัญชาสำหรับการลดน้ำหนักนั้น ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ครับ หลักฐานที่มาใช้ยืนยันประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นจะมีมากกว่า อีกอย่าง น้ำมันกัญชาไม่ใช่สารอันตรายและมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงน้อยมากครับ (7)
ท้ายสุด ตอนนี้กฎหมายกัญชาในบ้านเราก็ยังไม่นิ่ง จะซื้อมาลองชิมดูก็ต้องศึกษากฎหมายให้ละเอียดก่อนนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ กด Share ให้กำลังใจด้วยนะครับ