ทำไมร่างกายถึงหวงไขมันที่สุด?
สวัสดีครับ โค้ชเค Fitterminal.com
เพื่อนๆเคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมผู้หญิงถึงมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชาย และทำไมร่างกายเราถึงชอบสะสมไขมันมากขึ้นเรื่อยๆ
แถมเวลาเราจะลดไขมัน ร่างกายกลับหวงแหนไขมันเหลือเกิน มันเป็นเพราะอะไร?
คำถามต่อมา คือ ไขมัน 1 กิโลกรัม ให้พลังงานกี่แคลอรี่ หรือว่าเราต้องกินน้อยลงมากแค่ไหน ถึงจะสามารถลดไขมันได้ 1 กิโลกรัม?
วันนี้ ผมโค้ชเค จะมาอธิบายเหตุผลว่าทำไม ร่างกายเราถึงหวงไขมันมากกว่ามวลกล้ามเนื้อ
จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
ทำไมร่างกายถึงหวงไขมัน?
ก่อนอื่น สิ่งที่เพื่อนๆต้องรู้ คือ เซลล์ไขมันในร่างกายจะเรียกว่า “Adipocyte” และพอรวมกันเยอะๆ มันก็จะเป็นเนื้อเยื่อไขมัน หรือ “Adipose Tissue” นั่นเองครับ
เซลล์ไขมัน จะประกอบไปด้วย “Glycerol” 1 โมเลกุล และ “Free Fatty Acid” 3 โมเลกุล
ต่อมา ตามมวลกล้ามเนื้อก็จะมีไขมันที่เรียกว่า “Intramuscular Triglycerides” ด้วย
ซึ่งไขมันที่อยู่ตามกล้ามเนื้อนี้ จะถูกเผาผลาญไปใช้เป็นพลังงาน พร้อมกับไกลโคเจน ก่อนไขมันจากส่วนอื่นๆของร่างกาย เช่น ที่พุง และต้นขา เป็นต้นครับ
และอย่างที่เพื่อนๆรู้ครับว่า ร่างกายเราจะสามารถสร้างเซลล์ไขมันขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ และถ้ามีมากเกินไป ไขมันก็จะถูกเก็บไว้ในส่วนต่างๆของร่างกายที่ไม่ควรเก็บ เช่น ที่ตับอ่อน และตับ เป็นต้น
ผู้หญิงที่หุ่นดีทั่วไป อาจจะมีเซลล์ไขมันในร่างกายประมาณ 40,000-65,000 ล้านเซลล์ และคนที่น้ำหนักเกิน ก็อาจจะมีเซลล์ไขมันมากถึง 200,000 ล้านเซลล์เลยทีเดียวครับ
ทีนี้ พอเราเริ่มออกกำลังกายบ่อยขึ้น และกินอาหารดีขึ้นเพื่อลดไขมัน รูปร่างเราก็เริ่มเล็กลง และหุ่นก็จะเริ่มลีนขึ้นเรื่อยๆ
แต่เพื่อนๆรู้ไหมครับว่า เซลล์ไขมันในร่างกายเรา ยังอาจจะมีอยู่เท่าเดิม แค่ตอนนี้มันจะมีขนาดเล็กลงเท่านั้น
หรือร่างกายได้ดึง Free Fatty Acid ที่เป็นวุ้นข้างใน ไปใช้เป็นพลังงานแล้วนั่นเอง
ดังนั้น เพื่อนๆจะเห็นว่า ถ้าเรากลับไปกินอาหารเยอะเกินไป เซลล์ไขมันก็พร้อมที่จะขยายขนาด และเพิ่มปริมาณได้ตลอดเวลา
หรือพูดง่ายๆก็คือ ถ้าเพื่อนๆไม่ระวัง เราอาจจะกลับมาอ้วน และมีโยโย่เอฟเฟกต์ได้ภายใน 1-3 เดือน เป็นต้นครับ
ถ้าอยากลดไขมัน 1 กิโลกรัม ต้องกินน้อยลงมากแค่ไหน?
เพื่อนๆครับ ไขมัน 1 ปอนด์ หรือประมาณ 454 กรัม จะมี Triglycerides หรือไขมันจริงๆ ประมาณ 90% หรือประมาณ 400 กรัม และไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงาน 9 แคลอรี่
ดังนั้น เพื่อนๆจะเห็นว่า ไขมัน 1 ปอนด์ จะให้พลังงานประมาณ 3,600 แคลอรี่
และถ้าเรากินน้อยกว่าค่า Total Daily Energy Expenditure หรือค่า TDEE ประมาณ วันละ 250-300 แคลอรี่
ภายใน 1 เดือน เราก็จะสามารถลดไขมันได้ประมาณ 1 กิโลกรัม นั่นเองครับ
ทำไมร่างกายเราถึงชอบสะสมไขมัน?
เหตุผลแรก คือ ไขมันมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่กินพื้นที่ เก็บได้ทุกที่ทั่วร่างกาย เช่น ที่พุง ต้นขา และตามอวัยวะต่างๆ เป็นต้น
นั่นเป็นเพราะว่า ไขมัน 1 กรัม ก็จะมีส่วนประกอบเป็นน้ำ 1 กรัม ในขณะที่คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม จะมีส่วนประกอบเป็นน้ำประมาณ 3-4 กรัมครับ
เพื่อนๆจะเห็นแล้วนะครับว่า นี่คือเหตุผลที่ เราอาจจะสามารถลดนำ้หนักได้มากถึง 5-10 กิโลกรัม ภายในระยะเวลาแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น ถ้าเราตัดแป้งไปเลย หรือกินคาร์โบไฮเดรตน้อยลง
นั่นเป็นเพราะว่า พอร่างกายเรามีคาร์โบไฮเดรตน้อยลง ร่างกายก็จะขับน้ำออกมากขึ้น ทำให้เราดูผอม และน้ำหนักอาจจะลดลงจริง
แต่เพื่อนๆอย่าเพิ่งดีใจไปนะครับ เพราะว่าไขมันยังอาจจะอยู่เยอะเหมือนเดิมนั่นเองครับ
เหตุผลที่ 2 คือ ไขมันในร่างกายเป็นพลังงานสำรองที่ให้พลังงานเยอะ
เพราะอย่างที่เราเห็นครับว่า ไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงาน มากถึง 9 แคลอรี่ ในขณะที่โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต 1 กรัม จะให้พลังงานแค่ 4 แคลอรี่เท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราน้ำหนัก 60 กิโลกรัม และมีไขมันประมาณ 20% ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 12 กิโลกรัม
ทีนี้ ไขมัน 1 กิโลกรัม จะให้พลังงานประมาณ 7,700 แคลอรี่ ดังนั้นไขมัน 12 กิโลกรัม จะให้พลังงานมากถึง 92,400 แคอลรี่นั่นเองครับ
เพื่อนๆจะเห็นว่า ถ้าร่างกายเราใช้ไขมันเป็นพลังงานเพียงอย่างเดียว เราอาจจะมีชีวิตอยู่ได้เกือบ 2 เดือน โดยที่ไม่ต้องกินอะไรเลยครับ
ในทางตรงกันข้าม ร่างกายเราอาจจะสามารถเก็บไกลโคเจน (Glycogen) ซึ่งเป็นพลังงานสำรองจากคาร์โบไฮเดรต ได้มากสุดประมาณ 500 กรัม และแถม คาร์โบไฮเดรต 1 กรัม จะให้พลังงาน 4 แคลอรี่เท่านั้น
ดังนั้น ไกลโคเจนในปริมาณ 500 กรัม ก็จะให้พลังงานแค่ 2,000 แคลอรี่ ซึ่งถือว่าน้อยมากๆเมื่อเปรียบเทียบกับไขมันในปริมาณเท่ากันครับ
เพื่อนๆจะเห็นแล้วนะครับว่า ทำไมร่างกายเราถึงหวงไขมัน และชอบสะสมไขมันเป็นพลังงานสำรองมากที่สุด และถ้าร่างกายเราสร้างเซลล์ไขมันขึ้นมาใหม่แล้ว เราก็อาจจะต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต
ดังนั้น เราควรเริ่มปรับการกินอาหารของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆดีกว่านะครับ
ทำไมผู้หญิงถึงมีไขมันในร่างกายมากกว่าผู้ชาย?
เพื่อนๆผู้หญิงจะสังเกตว่า ร่างกายเรามักจะสะสมไขมันที่สะโพก และต้นขาเยอะกว่าส่วนอื่นๆ
นั่นเป็นเพราะว่า ไขมันในส่วนนี้จะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมากๆ สำหรับการตั้งครรภ์ และให้นมลูกนั่นเองครับ
ดังนั้น คุณแม่ที่ให้นมลูก และกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายที่เหมาะสมกับความฟิตควบคู่ไปด้วย ก็จะสามารถลดไขมันที่สะโพกและต้นขาได้เร็วกว่าปรกติครับ
ต่อมา โดยธรรมชาติแล้ว การที่ผู้หญิงมีเอวที่เล็ก มีสะโพกที่ขยาย และมีก้นเด้งสวย ก็จะสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดีกว่า และมีความพร้อมที่จะมีบุตรมากกว่าด้วย
ในทางตรงกันข้าม ผู้หญิงมีไขมันหน้าท้องเยอะเกินไป จะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามน้อยลง และมีความมั่นใจน้อยลงด้วย
แถมนักวิจัยยังพบอีกว่า ไขมันที่มีมากขึ้นยังอาจจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรค PCOS (Polycystic Ovary Syndrome) ที่อาจจะทำให้มีบุตรยากอีกด้วยครับ (1, 2)
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เพื่อนๆจะเห็นแล้วนะครับว่า ไขมัน 1 กรัม จะให้พลังงานมากถึง 9 แคลอรี่ แถมไขมันยังน้ำหนักเบา ไม่กินพื้นที่ และเก็บไว้ที่ไหนก็ได้ตามร่างกาย
ต่อมา ไขมัน 1 กิโลกรัม จะให้พลังงานประมาณ 7,700 แคลอรี่
ดังนั้น ถ้าเรากินน้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญประมาณวันละ 250-300 แคลอรี่ เราก็อาจจะสามารถลดไขมันได้ 1 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 4 อาทิตย์นั่นเองครับ
ทีนี้ ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ชอบไขมัน และอยากจะเอามันออกไปให้หมด เพื่อที่จะมีซิกแพค และหุ่นลีนๆก็ตาม
แต่ร่างกายเราจำเป็นต้องมีไขมันครับ เพราะไขมันมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของร่างกาย
ยกตัวอย่างเช่น สร้างฮอร์โมนอิ่ม หรือฮอร์โมนเลปติน สร้าง Growth Hormone และควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด หรือฮอร์โมนอินซูลิน เป็นต้น
ดังนั้น ใน Episode หน้า ผมเลยจะพาเพื่อนๆไปดูว่า ไขมันในร่างกายมีกี่ประเภท และไขมันชนิดไหนที่ถ้าลดได้แล้ว เราจะเห็นซิกแพคทันที ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ
ถ้าเพื่อนๆยังมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร คอมเมนต์หรือว่ามาแชร์ประสบการณ์ได้เลยที่ด้านล่าง
และถ้าตอนนี้เพื่อนๆไม่อยากเสียเวลาไปกับการลดไขมัน และการออกกำลังกายที่ผิดวิธี และอยากจะมีหุ่นในฝันให้ตัวเองภูมิใจ ภายใน 3-6 เดือนนี้
แอดไลน์มาตาม Link ด้านล่าง มาสอบถาม และพูดคุยกันก่อน และถ้าเคมีเราตรงกัน ผมก็มีคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับเพื่อนๆโดยเฉพาะ
สำหรับวันนี้ผมโค้ชเค ขอตัวก่อนนะครับ ไว้เรามาพบกันใหม่ใน Episode หน้า สวัสดีครับ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
| | |