ข่า (Galangal) มีประโยชน์ & สรรพคุณอะไร?
ข่า (Galangal) หนึ่งในสมุนไพรที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน เพราะใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ช่วยให้อาหารมีรสชาติอร่อย จัดจ้าน มีกลิ่นสมุนไพร และรู้ไหมครับว่า ข่านี่แหละ คือ หนึ่งในสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคได้ด้วย
และวันนี้ผมโค้ชเค จะมาเขียนถึงข่าว่ามีสรรพคุณและประโยชน์อะไรบ้าง รับรองว่ามีหลายอย่างมากที่เราไม่เคยรู้มาก่อน
คุยเฟื้องเรื่องจริง
- ข่า คือ พืชหัวอยู่ในชนิดพืชล้มลุก
- ข่า เป็นได้ทั้งสมุนไพรและเครื่องเทศ
- ข่าอ่อนใช้ประกอบอาหารและต้มเพื่อกินเป็นเครื่องเคียง ข่าแก่มักนำมาโขลกเป็นเครื่องแกง
- ข่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย และปลูกไว้กินได้ตลอดปี
ข่า (Galangal) สรรพคุณ & ประโยชน์
ข่าเป็นพืชล้มลุกที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียใต้ของเรานี่เองครับ ข่าก็เป็นพืชที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับขิงและขมิ้น ที่ใช้เป็นยามาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะสูตรยาจีน
คนไทยเราจะใช้ข่าแก่มาตำเป็นเครื่องแกง หอมๆ ส่วนข่าอ่อนอาจจะนำมาประกอบเป็นเมนูไปเลย เช่น เมนูผัดเผ็ด หรือว่าจะต้มกินกับน้ำพริกก็ได้
คนส่วนใหญ่ก็มักจะสับสนระหว่าง “ข่า” กับ “ขิง” นี่แหละครับว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันยังไง ถ้าไม่สนใจก็บอกให้แม่ค้าหยิบให้ แต่ทางที่ดี อ่านต่อดีกว่าว่าพืชสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด ต่างกันยังไง (ภาพด้านล้าง คือ ขิง)
ข้อแรกเลย ถ้าเมนูต้มหรือแกง ให้เดาไว้เลยว่ามีข่าแน่นอน ส่วนขิงจะมาแบบซอยเป็นเส้นบางๆ บางทีมาเป็นลูกเต๋า เมนูที่เจอบ่อยๆ ก็จะมีเมนูผัด ยำ เมี่ยง และนึ่งครับ
ข้อมูลโภชนาการ (Nutritional Value)
ข่า 100 กรัม จะให้พลังงานและสารอาหาร ดังนี้ครับ
- พลังงาน: 45 แคลอรี่
- เส้นใยอาหาร: 2 กรัม
- โปรตีน: 1 กรัม
- แร่ธาตุที่มีประโยชน์: ธาตุเหล็ก วิตามินเอ วิตามินซี Beta-Sitosterol, Galangin, Emodin และ Quercetin
มาพูดถึงประโยชน์กันต่อเลย
ข่าถูกนำมาใช้เป็นยาตั้งแต่สมัยจีนโบราณแล้วครับ เพราะมีสรรถคุณรักษาโรคหลายโรค และหลังๆก็เริ่มมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้วิจัยและพบว่า ข่ามีสรรถคุณช่วยรักษาโรคจริงๆ
ข่ามีสารต้านอนูมูลอิสระสูง (High In Antioxidants)
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ได้จากพืช เช่น ข่า สามารถช่วยให้ร่างกายเราสู้กับโรคต่างๆได้ และยังปกป้องเซลล์ต่างๆไม่ให้อนุมูลอิสระมาทำร้ายอีกด้วย
ผลที่ตามมา คือ ร่างกายเราจะแข็งแรง ห่างไกลจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง เป็นต้น
พฤกษเคมีเด่นๆที่มีอยู่ในข่า คือ สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง สามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น โรคความจำเสื่อม
แถมยังมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลเลวในเลือด (LDL) ทำให้ความดันโลหิตลดลง และเสี่ยงเป็นโรคหัวใจน้อยลงครับ (1)
ข่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง (Protect Against Some Cancers)
โรคมะเร็งเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะคนส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัวก้อนเนื้อก็อาจจะใหญ่มากแล้ว การหาวิธีป้องกันจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ
งานวิจัยพบว่า ข่ามีสรรพคุณช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด พฤกษเคมีที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง มีชื่อว่า “galangin” ที่มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง แถมยังป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งขยายใหญ่ขึ้นอีกด้วย (2)
ยกตัวอย่างเช่นงานวิจัยชิ้นนี้ครับที่พบว่า สารสกัดจากข่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งในลำไส้ (Colon Cancer) ได้ และนักวิจัยยังสรุปมาด้วยว่า ข่ายังสามารถสู้กับโรคมะเร็งชนิดอื่นได้ด้วย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งตับ เป็นต้น (3่)
ช่วยแก้ปัญหาผู้ชายที่มีบุตรยาก (Boost Male Fertility)
ประชากรผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิง และจากสถิติยังพบว่า ผู้ชายมีปริมาณสเปิร์มหรืออสุจิ (Sperm Count) น้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารและออกกำลังกายน้อย
ข่าวดี คือ จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ข่ามีส่วนช่วยเพิ่มปริมาณอสุจิ ซึ่งจะส่งผลดีต่อคนที่มีบุตรยาก
งานวิจัยที่มีผู้เข้าทดลองเป็นผู้ชาย 66 คน พบว่า เมื่อพวกเขาได้กินอาหารเสริมที่เป็นสารสกัดจากข่าและทับทิมแอปเปิ้ล เป็นเวลา 12 อาทิตย์ อสุจิมีการเคลื่อนไหวดีขึ้น (Motility) ถึง 62% นั่นหมายความว่าสเปิร์มมีความแข็งแรงนั่นเองครับ (4)
ข่าช่วยลดการอักเสบภายในและอาการปวดต่างๆ (Decrease Inflammation & Pain)
ตอนนี้งานวิจัยยังมีไม่เยอะเท่าไหร่ครับ อาการปวดที่มีการศึกษามากที่สุด คือ ในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ที่มีอาการปวดเข่าตอนลุก นั่ง ยืน เดิน
อย่างงานวิจัยชิ้นนี้ที่ใช้เวลาทดลอง 6 อาทิตย์ กับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม 261 คน นักวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดจากข่าและขิง มีอาการปวดเข่าลดลงระหว่างที่กำลังยืน มากถึง 63% (5)
ข่ามีส่วนช่วยลดการติดเชื้อ (Fight Against Infections)
เมื่อภูมิเราตก หรือว่าร่างกายอ่อนแอ เราก็อาจจะติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส จนทำให้ไม่สบายได้ ข่าวดี คือ สารสกัดจากข่ามีฤทธิ์ช่วยต้านาเชื้อเหล่านี้ จึงลดอาการติดเชื้อลงได้ครับ
เช่น งานวิจัยพบว่า สารสกัดจากข่ามีส่วนช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ (6)
- E. coli
- Staphyloccocus aureus
- Salmonella (ที่มีอยู่ในไก่เยอะๆ ทำให้ท้องเสียและอาการแทรกซ้อนอื่นๆ)
ข่า vs ขมิ้น อะไรดีกว่าและต่างกันยังไง?
อย่างที่เกริ่นไปครับว่า ทั้งข่า ขิง และขมิ้น มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน และเราก็สามารถกินสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดได้ทั้งแบบสุกและดิบ
ขิงจะช่วยเพิ่มรสชาติให้ดูสด หวานปนเผ็ด ข่าจะมีรสชาติเผ็ดขึ้นมาอีก ซึ่งเกือบจะออกไปทางพริกไทยดำซะด้วยซ้ำ ส่วนขมิ้น จะให้รสชาติที่ขมมากกว่าขิงและข่าครับ (ภาพด้านล่าง คือ ขมิ้นชัน)
งานวิจัยที่ศึกษามาทั้งหมดที่เห็นผลชัดเจน จะเป็นการศึกษาในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บเข่า และผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมครับ เพราะเมื่อทดลองแล้วพบว่า อาการปวดเข่าลดลง จากการได้รับสารสกัดจากสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด (7)
อีกทั้ง สมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ต่างก็มีสารพฤกษเคมีที่สามารถช่วยป้องกันและฆ่าเชื้อมะเร็งได้เป็นอย่างดี (8)
สิ่งหนึ่งที่ข่าแตกต่างจากขมิ้นและขิงในเรื่องสรรพคุณทางยา คือ ข่ามีสรรพคุณที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับอสุจิ ซึ่งจะแก้ปัญหาผู้ชายที่มีบุตรยากครับ (9)
ข่า กินเยอะๆมีผลข้างเคียงหรือโทษอะไรหรือเปล่า (Precautions & Side Effects)
หมอจีนและหมออินเดียสมัยก่อนได้มีการใช้ข่าเป็นยามาเป็นศตวรรษแล้วครับ ตราบใดที่เรากินข่าในปริมาณที่ใช้ในการประกอบอาหาร ผลข้างเคียงจะไม่มีเลย (ยกเว้นจะแพ้ข่า)
ต่อมาถ้าซื้ออาหารเสริมที่มีสารสกัดจากข่า (Galangal Extracts) ก็ควรอ่านฉลากให้ดีและกินตามที่แนะนำบนฉลาก (ดูด้วยว่าผ่าน อย. หรือเปล่าด้วย)
ใครที่มีโรคประจำตัวหรือยังต้องกินยาที่หมอสั่งอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้ออาหารเสริมมากิน ซึ่งรวมถึงสมุนไพรอื่นๆด้วยนะครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
ข่า เป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นยามาเป็นเวลาช้านาน เพราะมีสรรพคุณช่วยรักษาและต้านโรคหลายโรค โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม โรคคอเลสเตอรอลสูง และโรคมะเร็ง
ข่าเป็นสมุนไพรที่สรรพคุณทางยาใกล้เคียงกับขมิ้นและขิง แต่จะมีข้อดีที่แตกต่างมาตรงที่ ข่ามีส่วนช่วยแก้ปัญหาท่านชายที่มีบุตรยากได้
ข่ามีการรับรองจากงานวิจัยหลายชิ้นว่ามีสรรพคุณทางยาจริง ถ้าใครไม่อยากพลาดประโยชน์นี้ ก็เริ่มปลูกหรือหาซื้อข่ามาประกอบอาหารได้เลย หรือถ้าสนใจ สารสกัดจากข่าก็มีวางขายกันทั่วไปให้เลือกซื้อได้แล้วครับ
อาหารเสริมที่มีการผลิตที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรอง มีความเข้มข้นมากกว่าและผลลัพธ์ก็จะเห็นได้ชัดเจนและเร็วขึ้นครับ แต่ใครที่ป่วยและมีปัญหาสุขภาพ ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับก่อนที่จะซื้ออาหารเสริมทุกชนิด
อาหารเสริมที่แนะนำ: Himalaya, JointCare (ทาง Fitterminal ได้ 3% ในการสั่งซื้ออาหารเสริมนี้ ขอบคุณครับ)
ถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกด Share นะครับ
แล้วคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสรรพคุณและโทษของข่าในบทความนี้ครับ? คิดว่าจะใช้ข่ามาประกอบอาหารมากขึ้นหรือจะไปเลือกหาซื้ออาหารเสริมมากินดีกว่า?