อ้วน…ก็ตัวฉัน แล้วมันหนักหัวใคร?
มันไม่ผิดหรอกครับที่ถึงเราจะอ้วน แต่ก็มีความสุข มีความมั่นใจ มีความพอใจกับร่างกายเรา และมันก็ไม่ถูกต้อง ที่ใครจะไปพูดเชิงลบกับคนอ้วน เพราะโรคอ้วนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ใช่แค่กินไม่ยอมหยุดและไม่ออกกำลังกายเท่านั้น
ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนเลือกได้ เราทก็คงอยากหุ่นดี อยากให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ สุขภาพก็จะได้แข็งแรง
วันนี้ ผมโค้ชเค จะมาอธิบายว่า อ้วน…แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง (แล้วมันจะไปหนักหัวใคร?)
โรคอ้วน (Obesity) คืออะไร?
โรคอ้วน (Obesity) คือ ภาวะที่ร่างกายเราสะสมไขมันมากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เราไม่ขยับตัวออกกำลังกาย หรือกินอาหารที่ไม่ควรกินเยอะเกินไป
ทำให้ร่างกายไม่เผาผลาญพลังงานดีเหมือนเดิม และพลังงานแคลอรี่ที่เกินมาก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคความดัน ไขมันในเลือดสูง และไขมันแทรกตับ เป็นต้น
โรคอ้วนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด นั่นคือ
1. อ้วนทั้งตัว/ทั่วร่างกาย คือ ภาวะที่ร่างกายมีไขมันมากขึ้น แต่ไขมันจะถูกกระจายไปทั่วร่างกาย
พอมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เสี่ยงต่อโรคที่มากับน้ำหนักและไขมันที่มากขึ้น เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม ปวดข้อ ปวดหลัง หายใจลำบาก เหนื่อยเพลีย และนอนกรน เป็นต้น
2. อ้วนลงพุง คือ การที่ร่างกายสะสมไขมันบริเวณช่องท้องและอวัยวะภายในมากกว่าปกติ เช่น ตับ ไต ลำไส้ และกระเพาะอาหาร เป็นต้น
เจ้าไขมันตรงนี้จะเรียกว่า “Visceral Fat” หรือไขมันในช่องท้อง ที่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคอันตรายต่างๆที่เกริ่นไป เช่น โรคความดันโหลิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ
จำไว้เลยครับว่า ทุกๆ 5 เซนติเมตรที่ท้องเราใหญ่ขึ้น ความเสี่ยงโรคเบาหวานก็จะมีมากขึ้น 3-5 เท่าเช่นกันครับ
ถามว่าอ้วนแล้วหนักหัวใคร…
ผมว่าคนแรกที่รับเต็มๆน่าจะแพทย์และพยาบาลนี่แหละครับ เพราะมีโรคมาเอี่ยวเยอะเหลือเกิน
แน่นอนว่า คนอ้วนที่มีน้ำหนักเกินและมีไขมันเยอะ โดยที่เราสามารถมองเห็นจากภายนอก จะรู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นโรคอ้วน แต่สำหรับคนที่ผอมก็ใช่ว่าจะรอดนะครับ เพราะไขมันมันอาจจะอยู่ภายในเยอะแยะ รอวันที่จะทำร้ายเรา
การวัดปริมาณไขมันในร่างกาย เราจะต้องใช้เครื่องมือแพทย์พิเศษตรวจอีกที
การวัดดัชนีมวลกาย หรือ “Body Mass Index (BMI)” ก็เป็นการประเมิณว่าเราน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์หรือเปล่า ค่าดัชนีมวลกาย เราสามารถคำนวณง่ายๆครับ
ให้เอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร)2 แล้วเราก็จะได้คำตอบ
ผมได้เขียนบทความเกี่ยวกับดัชนีมวลกายไว้แล้ว และในนั้นก็มีสูตรคำนวณด้วย แค่ใส่น้ำหนักส่วนสูง ดูตารางเกณฑ์น้ำหนัก ก็รู้คำตอบแล้วครับ (คลิกเพื่อคำนวณ)
อ้วน…แล้วเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายบ้าง?
อย่างที่เห็นครับว่า ถ้าเราเป็นโรคอ้วน มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน มีไขมันมากขึ้น ปัญหาสุขภาพต่างๆก็จะเกิดขึ้นทุกที่ทั่วร่างกายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสมอง เส้นเลือด หัวใจ ตับ ถุงน้ำดี กระดูก และข้อต่อต่างๆ เป็นต้น
มาดูกันครับว่า โรคอ้วนเป็นอันตรายกับร่างกายเราแต่ละส่วนยังไงบ้าง
ระบบประสาท (Nervous System)
ถ้าเราอ้วน เราก็จะมีไขมันมากขึ้น ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย ไขมันที่เกินมาจะเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ผลที่ตามมาคือ สมองไม่ได้รรับออกซิเจนและสารอาหารที่เพียงพอ ทำให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง หรือ “Stroke”
คนอ้วนส่วนใหญ่อยากลดน้ำหนักกันทั้งนั้นแหละครับ แต่มันก็ทำได้ยากมาก พออ้วนมากขึ้นเรื่อยๆก็มีผลต่อสภาพจิตใจ อาจจะเครียด ขาดความมั่นใจ และชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนผอมและหุ่นดี เป็นต้น พฤติกรรมเหล่านี้ยิ่งทำให้เครียดมากขึ้นไปอีก
ระบบทางเดินหายใจ (Respiratory System)
รู้ไหมครับว่า ไขมันสามารถไปเกาะอยู่ที่คอได้ด้วย ทำให้ระบบทางเดินหายใจติดขัด ผลที่ตามมา คือ ตอนกลางคืนเราจะหายาใจลำบากและบางทีก็หยุดหายใจไปเลย เป็นโรคที่เรียกว่า “Slep Apnea”
คนอ้วนมากๆ อาจจะมีการหยุดหายใจไปชั่วขณะด้วย ถ้าเป็นแบบนี้นานๆ เราก็จะเหนื่อยง่าย เพลีย เหมือนนอนไม่เพียงพอถึงแม้ว่าจะนอนเยอะก็ตาม
ระบบทางเดินอาหาร (Digestive System)
พออ้วนขึ้น ระบบทางเดินอาหารก็พังไปด้วยครับ และโรคที่จะมาเป็นอันดับแรก คือ โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease: GERD) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะมันไหลย้อนกลับขึ้นมาที่คอนั่นเอง
สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อมา คือ โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) นั่นคือ อาการที่ก้อนนิ่วเริ่มสะสมตัวในถุงน้ำดี และพอเกิดขึ้นเราก็ต้องเข้าผ่าตัดเพื่อเอานิ่วออก เจ็บตัวอีก…
ตับก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่ไขมันชอบมากครับ พอไขมันไปแทรกที่ตับ ตับก็จะทำงานผิดปกติ จนอาจจะทำให้เกิดอาการตับวายหรือตับล้มเหลวได้ ภาวะแทรกซ้อนนี้รุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิตเลยนะครับ
ระบบไหลเวียนโลหิตและต่อมไร้ท่อ (Cardiovascular & Endocrine System)
ไขมันในเส้นเลือดพอก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เลือดก็จะไม่สามารถไหลผ่านไปได้ ส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพราะต้องปั้มเลือดให้ไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้ความดันโหลิตสูง และนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง ที่ผมเกริ่นไป
โรคอ้วนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) อินซูลิน คือ ฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ช่วยลำเลียงน้ำตาล (กลูโคส) จากกระแสเลือดไปยังเซลล์ในร่างกาย เซลล์เหล่านั้นก็จะใช้น้ำตาลไปเผาผลาญเป็นพลังงาน
ถ้าร่างกายเราไม่ตอบสนองหรือดื้อต่ออินซูลิน นั่นก็หมายความว่า น้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดไปไม่ถึงเซลล์ หรือเซลล์ไม่สามารถรับน้ำตาลกลูโคสได้ ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เสี่ยงหรือเป็นโรคเบาหวานในที่สุด
โรคเบาหวาน (Diabetes) พอเป็นแล้ว โรคอื่นๆก็จะตามมาเป็นขบวนเลยครัรบ ไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคไต โรคเสื้นเลือดในสมอง อัมพฤกษ์ และอาจจะทำให้ตาบอดได้ด้วย
โดยทั่วไป เส้นเลือดในร่างกายเราจะมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับปริมาณเลือดที่สูบฉีดจากหัวใจ แต่มันจะมีความแข็งและตีบลงได้ (Atherosclerosis) ถ้าเรามีโรคความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง น้ำตาลในเลือดสูง ปล่อยไว้นานๆ รับประกันเลยครับว่า โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองตีบ ตามมาแน่นอน
ระบบสืบพันธุ์ (Reproductive System)
มีหลายคนมากครับที่เข้าใจผิดว่า ถ้าวางแผนที่จะตั้งท้องหรือระหว่างที่ตั้งครรภ์ ไม่ควรออกกำลังกาย ผมงงมากเลย เพราะจริงๆแล้ว การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ทำได้และควรทำ
นึกภาพตามนะครับ คุณจะตั้งครรภ์ยากมากถ้าน้ำหนักเกิดมาตรฐาน และพอท้องก็อาจจะมีปัญหาสุขภาพอย่างอื่นตามมา จนถึงขั้นตายได้
คุณแม่ที่น้ำหนักเกิน จะมีสารพัดโรคแทรกซ้อน เริ่มต้นด้วย โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คุณหมอก็ตรวจท้องยาก อัลตร้าซาวด์ก็ยากเพราะไขมันไปบดบัง
พอถึงเวลาคลอด ก็จะคลอดยาก ซึ่งอาจจะมีผลทำให้เด็กตัวเขียวหรือไม่มีอากาศหายใจจนเสียชีวิตได้
ถ้าเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น เสียเลือดมากผิดปกติ การที่จะหาเส้นเลือดเพื่อฉีดน้ำเกลือก็ยากเข้าไปอีก เวลาฉุกเฉินผมเชื่อว่าแพทย์คงไม่มีเวลามางมหาเส้นเลือดเราแน่นอน หมอไม่ได้มีเทคนิคเจ๋งๆเพื่อมองผ่านผิวหนังและไขมันได้นะครับ
คุณแม่ที่เป็นโรคอ้วน ถ้าจะผ่าคลอดก็ยากอีกเหมือนกัน เพราะวางยาลำบาก ไหนพยาบาลจะต้องมาโกยไขมันออกอีก พอคลอดเสร็จยาบางชนิดหมอเขาก็จ่ายไม่ได้ เพราะน้ำหนักเกิน เห็นภาพหรือยังครับ?
ผมเชื่อว่าหมอส่วนใหญ่มีจรรยาบรรณพอและไม่เกลียดคนอ้วนแน่นอน แต่ถ้าลดน้ำหนักได้มันก็ดีต่อตัวเราและคนอื่น อย่างน้อยก็ไม่ไปหนักหัวหมอและพยาบาลครับ
ระบบกล้ามเนื้อ (Skeletal & Muscular System)
เมื่อเราอายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิง เราจะสูญเสียมวลกระดูกไปเรื่อยๆ ถ้าร่างกายขาดสารอาหารโดยเฉพาะ แคลเซียม (Calcium)
แต่อัตราการสูญเสียจะสูงขึ้น ถ้าเราน้ำหนักเกิน ซึ่งจะนำไปสู่โรคกระดูกพรุน หรือเวลาหกล้มกระดูกก็จะแตกหักง่าย ทำให้เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาต
การที่เราน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกข้อต่อต่างๆก็จะต้องรับน้ำหนักเยอะเกินไป จะทำให้เกิดอาการปวดตามข้อ และเป็นโรคข้อเข้าเสื่อมตามมา เป็นต้น
ระบบผิวหนัง (Skin/Integumentary System)
ผิวหนังในส่วนที่โดนไขมันทับไว้นานๆ มันจะเกิดผื่นและคันครับ แถมพอปล่อยไปนานๆก็จะเกิดรอยช้ำ ย้วย และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้
ปัญหาอื่นๆ (Other Effects)
โรคอ้วนอาจจะมีส่วนทำให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเกิดตามอวัยวะครับ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งลำไส้ เป็นต้น
สรุป คือ ยิ่งอ้วนมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งก็สูงขึ้นเท่านั้นครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (Takeaway)
อย่างที่เห็นครับว่า โรคอ้วนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังมากมาย ระบบต่างๆในร่างกายเราก็จะแย่ลง จนทำให้สุขภาพโดยรวมไม่ดีตามมาด้วย
ผมรู้ว่า พูดมันง่าย พอลงมือทำมันยาก แต่ถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายมากขึ้น สุขภาพเราก็จะแย่ลงเรื่อยๆ เรา
เริ่มนับหนึ่งได้เสมอครับ แล้ววันนี้…อะไรที่กำลังฉุดเราอยู่?
ตั้งเป้าไว้ง่ายๆครับ แค่ลดน้ำหนักให้ได้อย่างน้อย 5-10% ของน้ำหนักปัจจุบัน แค่นี้เราก็จะเริ่มเห็นว่าสุขภาพดีขึ้น
รักใครอย่าปล่อยให้อ้วน ถ้าชอบบทความนี้และคิดว่ามีประโยชน์ อย่าลืมกดปุ่ม Share ด้านล่างด้วยนะครับ
สำหรับใครที่คิดว่ากำลังเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน หรืออยากลดอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานประเภท 2 อยู่ตอนนี้
ทาง Fitterminal เราได้ร่วมกันกับพาร์ตเนอร์ นำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม iCAN ซึ่งเป็นตัวช่วยลดน้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอล และไขมันได้เป็นอย่างดี มีความปลอดภัย มีเลข อย. ตรวจสอบได้ ใช้ส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติเป็นหลัก
สนใจสั่งซื้อหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม (คลิกตรงนี้) ครับ