5 เหตุผลที่ทำให้เราตบะแตก กินเยอะ & ไขมันไม่ได้
ตอนนี้เพื่อนๆกำลังเครียด เพราะเรากินไม่หยุด ตบะแตกหนักขึ้น จนหาทางกลับไม่ถูก หรือเรียกสติกลับมาไม่ได้อยู่หรือเปล่าครับ?
ประเด็น คือ ถ้าพื้นฐานเราเป็นคนชอบกินอาหารอร่อยๆมาตลอด พอเรามาบ้าคลั่งกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย
ก็อาจจะทำให้เรามีปัญหากับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารได้
เช่น เราอาจจะเริ่มต้นด้วยการกินข้าววันละมื้อ ไม่เกิน 800 แคลอรี่ กลัวอ้วนจนต้องคำนวณแคลอรี่ทุกอย่าง
และพออยู่คนเดียว ก็จะหยุดคิดเรื่องอาหารไม่ได้ และกินจุกจิกจนน้ำหนักพุ่งขึ้นมาเหมือนเดิม เป็นต้น
วันนี้ ผมโค้ชเคจะพาไปดูว่า 5 เหตุผลที่ทำให้เราหยุดคิดเรื่องอาหารไม่ได้ เสี่ยงที่จะตบะแตก และจะมีวิธีป้องกันมาแนะนำด้วยเช่นเคย จะมีอะไรบ้างตามมาเลยครับ
ทำไมเราถึงตบะแตก คุมอาหารไม่ได้ และเสี่ยงที่จะ Binge Eating
แน่นอนครับว่า ถ้าเราต้องการลดน้ำหนัก เราก็จะต้องเริ่มควบคุมอาหาร หรือค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของเราให้ดีขึ้น
เช่น เริ่มกินผักและผลไม้มากขึ้น และใน 1 วัน เราควรจะเริ่มดูว่าเรากินอะไรเข้าไป ในปริมาณเท่าไหร่ด้วย
แต่ปัญหา คือ การที่เคร่งกับการลดน้ำหนักและลดไขมันมากเกินไป หรือพูดง่ายๆ คือ เราอาจจะลดน้ำหนักผิดวิธีมาตลอด ก็อาจจะทำให้เรากลายเป็นคนกลัวอ้วน
เช่น คำนวณแคลอรี่ทุกอย่าง ไม่อยากเจอเพื่อน ไม่อยากออกบ้าน เวลาจะไปกินข้าวข้าวนอก ก็จะอดข้าวทั้งวัน เพื่อที่จะกินมื้อใหญ่หนักๆมื้อเดียว
สิ่งที่แย่ตามมา คือ เราอาจจะมีความสัมพันธ์ที่แย่กับอาหาร น้ำหนักขึ้นหรือพุ่งกลับมาเหมือนเดิม เราอาจจะล้วงคอ กินยาถ่าย และเข้าฟิตเนสทั้งวันเพื่อไปเบิร์นออก
และที่สำคัญ เวลาที่เราอยู่คนเดียว ในสมองก็จะคิดแต่เรื่องอาหาร ลดน้ำหนัก ไม่มีความสุขและอายที่คุมตัวเองไม่ได้ เป็นต้น
ดังนั้น การที่เรารู้ทันพฤติกรรมการกินอาหารของเรา หรือเหตุผลที่ทำให้เราเสี่ยงที่จะตบะแตก หยุดกินไม่ได้
และเรียนรู้วิธีป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะส่งผลดีต่อการลดน้ำหนัก และสุขภาพโดยรวมที่แข็งแรงได้
1. เราสามารถเข้าถึงอาหารได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แน่นอนว่า ข้อดีของการมีอันจะกิน คือ เราไม่ต้องกลัวอด แต่มันก็มาพร้อมกับอาหารที่เยอะเต็มตู้ และพร้อมจะหยิบเข้าปากได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น เราต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ และ 5 คำแนะนำในการซื้อของเข้าบ้าน คือ
- เลือกซื้อแต่ของที่มีประโยชน์เข้าบ้านเท่านั้น หรือซื้อและกินขนมและของที่เราชอบให้หมดเลยตั้งแต่อยู่ข้างนอก
- เราอาจจะเลือกวิธีซื้อของออนไลน์ดีกว่าถ้าใจไม่แข็งพอ เพราะเราจะไม่ต้องเดินผ่านอาหารที่ยั่วยวน
- เริ่มเอาอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้ใกล้ตัวมากขึ้น เช่น วางแอปเปิ้ลไว้บนโต๊ะอาหาร และในครัวก็อาจจะมีถั่วรสธรรมชาติวางไว้หยิบกินเล่นได้
- พยายามกินอาหารให้เป็นมื้อๆ และกินให้อิ่มไปเลยทีเดียว เพื่อที่เราจะควบคุมความหิวได้ดีตอนก่อนนอน
- ระหว่างกินอาหาร เราอาจจะไม่ดูมือถือหรือทีวีดีกว่า เพราะว่าเราอาจจะไม่ได้โฟกัสที่อาหาร จนกินเยอะเกินไปโดยไม่รู้ตัว เป็นต้น
2. เราอาจจะกินอาหารตามอารมณ์บ่อยๆจนเป็นนิสัย
“Emotional Eating” หรือการกินอาหารตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอารมณ์เหงา เบื่อ โกรธ และเศร้า อาจจะทำให้เรามีความสุขชั่วคราวได้จริง
แต่การที่เราเอาอาหารมาแก้ปัญหาอารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้น จะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และอาจจะเป็นการสร้างนิสัยการกินอาหารที่แก้ยากและไม่ดีในอนาคต
ดังนั้น ก่อนที่เราจะหยิบอะไรเข้าปาก เราควรหยุดและถามตัวเองว่า เราหิวหรืออยากจะกินอาหารนี้จริงหรือเปล่า หรือเราแค่เหงา เศร้า และโกรธใครอยู่ไหม
ประเด็นสำคัญ คือ โดยทั่วไปอารมณ์เบื่อจะเกิดขึ้นง่ายและเป็นสาเหตุต้นๆที่ทำให้เราอยากกินอาหารมากกว่าปรกติ เช่น เราอาจจะอยากหยิบอะไรเข้าปาก ระหว่างดูซีรีส์
ดังนั้น เราอาจจะเริ่มสังเกตพฤติกรรมของเราด้วยว่า เรากินอาหารเพราะเบื่อหรือเปล่า และการดื่มน้ำเย็นเข้าไปก่อน ก็อาจจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการดับความหิวครับ
3. เราอาจจะกินอาหารข้างนอกเป็นส่วนใหญ่
ประเด็น คือ การกินอาหารข้างนอกเป็นประจำ อาจจะทำให้ร่างกายเราได้รับพลังงานแคลอรี่จากอาหารที่ไม่มีประโยชน์มากเกินไป โดยเฉพาะน้ำตาลและน้ำมันทำอาหาร
ดังนั้น เราควรเริ่มวางแผนล่วงหน้าเลยดีกว่าว่า เราจะไปไหน กินเมนูอะไร และกินกับใคร
เช่น ถ้าเราจะไปร้านอาหาร เราก็อาจจะดูว่ามีเมนูอะไรบ้าง ที่น่าจะมีสารอาหารหลักครบ นั่นคือ โปรตีน ไขมันดี และคาร์บเชิงซ้อน
และที่สำคัญ เราไม่ควรเสียดายอาหาร หรือรู้สึกว่าต้องกินให้เกลี้ยงทุกเมนูที่สั่ง เป็นต้น
สิ่งที่ต้องระวังต่อมา คือ การอดอาหารทั้งวันเพื่อไปกินมื้อใหญ่ทีเดียว โดยเฉพาะบุฟเฟต์ อาจจะทำให้เราเลือกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ จนอ้วนเร็วกว่าปรกติ และเราอาจจะกินอาหารเร็วเกินไปได้
เพราะเพื่อนๆอย่าลืมนะครับว่า ท้องเราอาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 15-20 นาที ในการที่จะบอกสมองว่า เราอิ่มแล้วหรืออาหารในท้องมีเยอะมากพอแล้ว
หรือถ้าเรากินเร็วและเยอะเกินไป ร่างกายอาจจะได้รับพลังงานแคลอรี่เกินความจำเป็นได้
ทิปส์ดีๆ คือ นักวิจัยเขาพบว่า คนส่วนใหญ่มักจะตักอาหาร 3 ชนิดใส่จานก่อน แล้วจะกลับมาเติมอาหารชนิดเดิมเพิ่มอีกครั้ง (1)
ดังนั้น เราอาจจะเริ่มจัดจานให้ดีตั้งแต่แรกดีกว่า เช่น เราอาจจะเลือกแหล่งโปรตีนก่อน แล้วค่อยไปดูคาร์โบไฮเดรต ผัก ผลไม้ และตบท้ายด้วยของหวานที่อยากกิน เป็นต้น
4. เพื่อน ครอบครัว และนิสัยส่วนตัว อาจจะทำให้เรากินเยอะ
รู้ไหมครับว่า เรามักจะกินอาหารเหมือนกับคนที่เราอยู่ด้วย และเคี้ยวอาหารในความเร็วเท่ากันอีกต่างหาก
ดังนั้น 4 คำแนะนำในการควบคุมอาหารที่แนะนำ คือ
- ถ้าเป็นไปได้ เราควรเป็นคนแรกที่ชวนทุกคนกินอาหารดีๆ หรือเป็นคนแรกที่สั่งอาหารดีกว่า
- เราไม่จำเป็นต้องกินเร็วเหมือนคนอื่น หรือเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกคำดีกว่า
- เริ่มตั้งสติและเตือนตัวเองว่า ร่างกายเราจะต้องการพลังงานแคลอรี่และสารอาหารที่ต่างกันกับคนที่เราอยู่ด้วย และ
- ถ้าเป็นไปได้ เราควรจัดจานอาหารให้ดี และนั่งกินอาหารให้เรียบร้อย มากกว่าที่จะยืนหรือเดินไปกินไป เป็นต้น
5. เวลานอน เวลากินอาหาร และเวลาอดอาหาร อาจจะไม่เหมาะสม
ประเด็น คือ เวลาเข้านอนและคุณภาพของการนอน เช่น การนอนน้อยลงแค่ 1 ชั่วโมง หรือการทำงานเป็นกะ
จะมีผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต ระดับฮอร์โมนอิ่ม-ฮอร์โมนหิว และความอยากอาหารของเราโดยตรง
นี่คือเหตุผลที่
- เราควรเริ่มเข้านอนให้ใกล้เคียงกับเวลาเดิม และนอนให้พอ ถึงแม้ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม
- ถ้าวันไหนเรานอนน้อย เราต้องระวังอาหารหวานๆ หรือของมันของทอดให้มากที่สุด และเลือกกินอาหารดีๆเข้าไปให้อิ่มก่อนดีกว่า
- เราอาจจะกินอาหารมื้อแรก ภายใน 3-5 ชั่วโมงหลังจากที่ตื่นนอน เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
- เราไม่ควรห้ามตัวเองไม่ให้กินอาหารที่ชอบระหว่างการไดเอท แต่เราควรกินให้ถูกเวลา
- เราอาจจะเริ่มวางแผนว่าจะทำอะไรบ้างใน 1 วัน เพื่อที่เราจะได้ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง จนเกิดอารมณ์เบื่อหรือหงุดหงิดกับตัวเอง และแก้ปัญหาด้วยอาหาร เป็นต้นครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เพื่อนๆครับ การที่เรากินเยอะในบางมื้อหรือบางวัน จะเป็นเรื่องปรกติที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว
สิ่งที่เราจะต้องระวัง คือ การกินอาหารตามอารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้น ที่อาจจะทำให้เราคิดถึงแต่อาหาร หยุดกินไม่ได้ จนเราเครียด อาย และโทษตัวเองทีหลัง
ดังนั้น ตอนนี้เริ่มฟังร่างกาย สังเกตพฤติกรรมการกินอาหาร และเริ่มเรียนรู้ว่าสถานที่ไหนหรืออาหารอะไร ที่เป็นจุดอ่อนของเราดีกว่าครับ
ตอนนี้มีอาหารอะไรบ้างที่เพื่อนๆสังเกตว่าหยุดกินไม่ได้ครับ?
ถ้ายังมีคำถาม หรือคำแนะนำดีๆ คอมเมนต์หรือว่ามาแชร์ประสบการณ์ได้เลยที่ด้านล่าง
และถ้าตอนนี้เพื่อนๆไม่อยากเสียเวลาไปกับการลดไขมัน และการออกกำลังกายที่ผิดวิธี และอยากจะมีหุ่นในฝันให้ตัวเองภูมิใจ ภายใน 3-6 เดือนนี้
แอดไลน์มาตาม Link ด้านล่าง มาสอบถาม และพูดคุยกันก่อน และถ้าเคมีเราตรงกัน ผมก็มีคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับเพื่อนๆโดยเฉพาะ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร | YouTube | Facebook | Instagram | LINE