อาหารที่ควรเลี่ยงช่วงให้นมลูก มีอะไรบ้าง?
อาหารที่ควรเลี่ยงช่วงให้นมลูก สำหรับคุณแม่มีอะไรบ้างเคยรู้บ้างไหมครับ เคยสงสัยไหมว่าอาหารที่เรากินเข้าไปจะทำให้ลูกสุขภาพดี ตื่นมาสบายตัวขึ้น ไม่ท้องเสีย หรือทำให้ลูกนอนน้อยลงหรือหลับยากหรือเปล่า แล้วอาหารที่กินเข้าไปมีผลต่อปริมาณน้ำนมแม่ไหม วันนี้ผมมีคำตอบครับ
เด็กที่กินนมแม่ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบจากอาหารที่แม่กินเลย และอาหารระคายเคือง ไม่สบายตัวที่อาจจะเกิดขึ้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเกิดจากอาหารที่คุณแม่กินเสมอไป มีความเชื่อผิดๆหลายอย่างเกี่ยวกับการให้นมลูกและอาหารที่คุณแม่กินเข้าไป เช่น มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าแม่กินกระหล่ำหรือผักใบเขียวแล้วให้นมลูก จะทำให้ลูกท้องอืดและผายลมบ่อย ลองคิดตามดูนะครับว่าแม่จะเอาแก๊สที่กินเข้าไปผ่านไปทางน้ำนมได้ยังไง? และก็มีการถกเถียงกันอีกว่า อาหารที่กินเข้าไปจะทำให้รสชาติน้ำนมเปลี่ยนไป อาหารบางอย่างอาจจะทำให้เด็กไม่ชอบ ถ้ามันจริงผมว่าก็เป็นผลดีนะครับ ก็เหมือนกับว่าคุณแม่ได้ปรับตัวลูกเราให้เข้ากับนิสัยการกินของครอบครัว พอเขากินอะไรได้เขาก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอาหารที่ทุกคนในครอบครัวกินอยู่เป็นประจำ
ที่สำคัญคืออย่าไปกลัวที่จะกินอาหารให้ครบทุกกลุ่มอาหาร เด็กบางคนก็หงุดหงิด แพ้อะไรง่าายกว่าเด็กคนอื่น หรืออารมณ์ไม่ดีโดยไม่มีเหตุผลก็มี แต่สิ่งหนึ่งที่คุณแม่มั่นใจได้เลยคือ ไม่มีอาหารอะไรดีเท่าน้ำนมแม่
อาหารที่ควรเลี่ยงช่วงให้นมลูก
ยังไงก็แล้วแต่ ของกิน อาหารเสริม และสมุนไพร ที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ อาจจะมีส่วนทำให้ตัวคุณแม่และลูก มีอาการแพ้ หรือผิดปกติก็ได้ มีอะไรบ้างเรามาดูกันเลยครับ
นมวัว
เด็กบางคนจะเกิดอาหารแพ้โปรตีนจากน้ำนมวัว ซึ่งถ้าคุณแม่ดื่มนมวัวหรือทานอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัว โปรตีนจากนมวัวก็จะถูกผ่านไปยังลูกเราได้ ถ้าคุณแม่สังเกตุเห็นว่าลูกเรามีอาการไม่ปกติ เช่น เป็นไข้ ตัวร้อน มีผื่น และน้ำมูกไหล และอาหารแพ้หนักเช่น ท้องเสีย ไม่อยากกินอาหาร ควรปรึกษาแพทย์และนำลูกไปตรวจโดยด่วนที่สุดครับ ถ้าคุณแม่รู้ว่าลูกเราแพ้โปรตีนจากนมวัว ควรปรึกษานักกำหนดอาหารเพื่อหาวิธีปรับเปลี่ยนการกินให้เหมาะสม
คาเฟอีน (Caffeine)
ถ้าคุณแม่คนไหนชอบดื่ม ชา แกาแฟ หรือกินช็อคโกแล็ต เป็นประจำอยู่แล้ว ควรจะดื่มหลังจากให้นมลูกหรือบีบน้ำนมใส่ขวดไว้ก่อนที่จะดื่มนะครับ เพราะเวลาลูกเรากินนมเขาจะได้รับสารคาเฟอีนจากน้ำนมด้วย ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงภายหลัง และทำให้นอนไม่หลับ ที่จริงคาเฟอีนยังพบในน้ำอัดลม ยาชูกำลังและยาลดไข้บางยี่ห้อด้วย ปกติแล้วแพทย์จะแนะนำคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่ให้จำกัดปริมาณ คาเฟอีน ให้เหลือแค่ 200 มิลิกรัมต่อวัน และสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกก็ไม่ควรจะเกิดปริมาณนี้เหมือนกัน รู้ไหมครับว่าชาหรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน (Decaffeine) รสชาติไม่ได้ต่างอะไรกันเลยนะครับ และอีกอย่างปัญหาของคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่คือการนอนไม่พอ เพราะฉะนั้นการเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจะทำให้นอนหลับง่ายขึ้น โดยเฉพาะตอนลูกนอนคุณแม่ก็สามารถนอนพร้อมลูกได้เลย โดยปกติแล้วแพทย์จะแนะนำคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่ให้จำกัดปริมาณ คาเฟอีน ให้เหลือแค่ 200 มิลิกรัมต่อวัน และสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูกก็ไม่ควรจะเกิดปริมาณนี้เหมือนกัน
แอลกอฮอล์ (Alcohol)
ถึงแม้ว่าปริมาณแอลกอฮอล์ที่เด็กได้รับผ่านทางน้ำนมแม่จะน้อย คุณแม่ก็ควรรู้ปริมาณที่แนะนำ เพราะถ้ากินเยอะไปก็ส่งผลเสียทั้งตัวแม่เองและลูกด้วย การดื่มแอลกอฮอล์แค่ครั้งสองครั้งต่ออาทิตย์จะไม่มีผลอะไรมากกับเด็ก ปริมาณแอลกอฮอล์ที่แพทย์แนะให้ดื่มภายใน 1-2 อาทิตย์ คือ 1-2 ยูนิต (Unit) (ขึ้นอยู่เปร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ของแต่ละเครื่องดื่มด้วย)
- เหล้าพวกสปิริต เช่น บรั่นดี ไม่ควรดื่มเกิน 25 มิลิลิตร
- เบียร์ไม่เกิน 1 ไพนต์ (568 มิลิลิตร)
- ไวน์ไม่เกิน 175 มิลิลิตร
โดยเฉลี่ยแล้วร่างกายเราจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่จะขับแอลกอฮอล์ 1-2 ยูนิตออกไป ถ้ารู้อย่างนี้แล้วคุณแม่ควรให้นมลูกก่อนที่จะดื่มและคำนวณเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหลังดื่มก่อนที่จะป้อนนมลูกครับ แต่ถ้ามีโอกาศพิเศษเช่น วันเกิด วันขึ้นบ้านใหม่ สงกรานต์ ปีใหม่ ถ้าคุณแม่รู้ว่าจะดื่มเหล้ามากกว่าปกติ ควรบีบน้ำนมเก็บไว้ก่อน เพื่อที่จะไม่ต้องมาคอยกังวลครับ
ถ้ารู้สึกว่ามีอาการมีนเมา คุณแม่ไม่ควรจะอุ้มลูกหรืออุ้มลูกไปนอนบนเตียง เพราะคุณแม่มีโอกาศที่จะล้มทับลูกหรือเกิดเหตุไม่คาดคิดอย่างอื่นได้ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยลูกเป็นอันดับหนึ่งครับ
ปลา
ปลาเป็นอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ แต่คุณแม่หลังคลอดที่ให้นมลูกไม่ควรกินปลาที่มีไขมันสูงเช่น ปลาแซนมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน และปลาทูน่า เกิน 2 ครั้งต่ออาทิตย์ เหตุผลคือปลาพวกนี้จะมีมลพิษเยอะ
น้ำเต้า
เหตุผลที่คุณแม่ที่กำลังตั้งท้องและคุณแม่ที่ให้นมลูกควรเลี่ยงผลไม้นี้เพราะว่า มีตะกั่วสูงมาก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งแม่และลูก
สมุนไพรและอาหารเสริม
นักวิชาการยังหาบทสรุปไม่ได้ว่า ปริมาณสมุนไพรและอาหารเสริมที่คุณแม่ควรกินช่วงให้นม คือเท่าไหร่ แต่โดยทั่วไปแล้วคุณแม่ควรเลี่ยงอาหารเสริมหรือสมุนไพรที่สกัดแบบเข้มข้น ถ้านำสมุนไพรพื้นบ้านมาทำกับข้าว ปริมาณแค่นี้จะไม่มีผลอะไรเลยกับตัวคุณแม่และน้ำนมที่ให้ลูกกิน แต่ถ้าสกัดเข้มข้นแล้วนำมาทานเป็นอาหารเสริม อันนี้จะเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
มีสมุนไพรและพืชบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมเช่น เชสต์เบอร์รี่ ส่วนใหญ่แล้วคนจะกินเป็นอาหารเสริม ช่วยในเรื่องของระบบสืบพันธุ์ อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ กรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ไคโตซาน (Chitosan) และยาสมุนไพรจีน บางชนิด ถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุด คุณแม่ควรเลี่ยงอาหารเสริมและสมุนไพรในช่วงที่กำลังให้นมลูก หรือถ้าต้องกินจริงๆ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัย อย่าลืมนะครับว่า เราไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว ลูกต้องการแม่ที่แข็งแรงคอยดูแลเขาครับ