6 ปัญหา ที่ทำให้ไขมันไม่ลด
สวัสดีครับโค้ชเค Fitterminal.com
ถ้าเราคุมอาหารเพื่อลดไขมันไปสักพัก แล้วไขมันไม่ลด สิ่งแรกที่เพื่อนๆทำคือค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ใช่ไหมครับ?
แล้วคำแนะนำที่ได้ส่วนใหญ่ก็มักจะบอกแค่ว่า ให้เราควบคุมอาหาร นับแคลอรี่ ต่อมาก็บอกว่าเราควรกินอะไรบ้าง ไม่ควรกินอะไรบ้าง เช่น ของมัน ของทอด และของหวาน เป็นต้น
แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เพื่อนๆไม่รู้ว่าจะกินอะไร เพราะลึกๆแล้ว เรารู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี
ทีนี้คำถาม คือ มีสาเหตุหรือเหตุผลอะไรบ้าง ที่ทำให้การไดเอทในการลดไขมันไม่ได้ผล?
วันนี้ผมโค้ชเคเลยจะพาเพื่อนไปมาดู 6 ปัญหาหลักในการควบคุมอาหารเพื่อลดไขมัน และจะมีคำแนะนำดีๆ ในการไดเอทเพื่อลดไขมันเช่นเคย ตามมาเลยครับ
ควบคุมอาหารแล้ว แต่ไขมันไม่ลด เพราะอะไร?
จากการตอบแบบสอบถามของผู้เข้าโปรแกรมลดไขมันกว่า 100,000 คน พบนะครับว่า 10 เหตุผล หรือ 10 ปัญหาในการกินอาหารเพื่อลดไขมันที่พบมากที่สุด มีดังนี้ครับ
- กินอาหารเพราะอารมณ์และความเครียด
- ไม่มีการวางแผนในการกิน ทำให้หลุดบ่อย
- มีความอยากอาหาร ทั้งที่ไม่หิว
- กินของว่างระหว่างมื้อ ทั้งที่ไม่หิว
- ติดขนม
- กินอาหารนอกบ้านบ่อยเกินไป
- ปริมาณอาหารเยอะเกินไป
- ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเอง
- ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย และเหมือนจะมาเกินไป
- กินเร็วเกินไป ทำให้กินได้เยอะ และไม่อิ่มท้อง
แน่นอนครับว่า อาหารที่เรากินเข้าไปสำคัญมากกับการลดไขมัน เพราะพอเรากินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้นนะครับ เราก็จะสามารถควบคุมปริมาณ และความอยากอาหารได้ดีขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้เรามีสุขภาพโดยรวมแข็งแรง ขับถ่ายตรงเวลา นอนหลับสนิท และสามารถมีหุ่นลีนได้ในที่สุด
แต่อย่างที่เพื่อนๆเห็นครับว่า ปัญหาต้นๆในการกินอาหารเพื่อลดไขมัน ปัญหาที่ว่า “ไม่รู้จะกินอะไร” ไม่ได้ติดอันดับ 1 ใน 10 เลย เพราะว่าลึกๆแล้วเราก็รู้ว่าเราควรกินอะไร และไม่ควรกินอะไรอยู่แล้ว
การลดไขมัน มันไม่ใช่แค่การไดเอท และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ แล้วเราจะไปถึงเป้าหมาย
เราควรเริ่มเรียนรู้ที่จะค่อยๆปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้อง Perfect 100% แต่ขอแค่ให้ดีขึ้นก็พอครับ
ทีนี้ เรามาดูกันดีกว่าครับว่า 6 ปัญหาหลักในการไดเอทเพื่อลดไขมันสำหรับผู้หญิงมีอะไรบ้าง และจะมีวิธีแก้ไขอะไร ที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริง
ผมเตือนไว้ก่อนนะครับว่า เราควรเริ่มแก้ปัญหาทีละข้อไป ไม่แนะนำให้แก้ปัญหาไปเลยทั้งหมดทีเดียว เพราะมันจะทำให้เราท้อได้ ถ้าแก้ปัญหาใหญ่ๆทีเดียวไม่สำเร็จ
เราควรเริ่มทำอะไรที่เราทำได้ก่อน ค่อยๆพัฒนาให้ดีขึ้น พอทำสำเร็จมันจะทำให้เรามั่นใจมากขึ้น และสามารถไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุดครับ
ปัญหาที่ 1 “ชอบกินอาหารเพราะอารมณ์ ในเวลาเครียด หรือตอนจิตตก”
นี่คือปัญหาอันดับหนึ่งของผู้หญิงกว่า 60% เลยครับ เพราะเวลาที่เพื่อนๆทำงานเครียด มีความรับผิดชอบเยอะ และอาจจะอยู่ในสภาวะที่จิตใจอ่อนไหว มันก็อาจจะทำให้เราควบคุมตัวเองไม่อยู่ หรือตะบะแตกได้
ผมแนะนำว่า ก่อนที่เราจะกินอาหารขยะ หรือกินอาหารเยอะเกินไป เราลองย้อนกลับไปดูว่า อะไรเป็นตัวกระตุ้น หรือ ตัว “Trigger”
ยกตัวอย่างเช่น เราอยากกินอาหารมากขึ้นเพราะกำลังจะมีประจำเดือน หรือเพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ที่เราพยายามไม่คิดเรื่องงาน และอยากมีอาหารแก้เครียดหรือเปล่า?
เพราะจริงๆแล้ว ปัญหามันอยู่ที่เหตุการณ์ก่อนที่เราจะกินอาหาร และมันมักจะเริ่มจากสิ่งหนึ่งไปหาสิ่งหนึ่ง
เราต้องสังเกตว่ามี Trigger หรือตัวกระตุ้นอะไรบ้าง เช่น มันเป็นความคิด ความรู้สึก สถานที่ หรือว่าเหตุการณ์อะไร?
เมื่อเรารู้ตัวกระตุ้นหรือ Trigger แล้ว เราก็แค่รู้ว่าต้องหยุดคิด หรือหยุดทำอะไรบ้าง ก่อนที่ตัว Trigger จะทำงาน
ยกตัวอย่างง่ายๆ เราอาจจะจดวันที่คิดว่าประจำเดือนจะมา เพื่อที่เราจะได้แพลนรับมือว่าจะกินอาหารอะไรบ้าง และจะได้สังเกตความอยากอาหารด้วย
แน่นอนครับว่า เราอาจจะแก้ปัญหาไม่ได้ทันที ซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติมาก สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือ การมีสติที่จะเข้าใจความรู้สึก ความคิดของเรา และสถานการณ์สิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้นต่างหากครับ
ปัญหาที่ 2 “ไม่ได้วางแผนว่าจะกินอะไรบ้าง”
เพื่อนๆเคยเป็นใช่ไหมครับ ที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะมีอะไรกินบ้าง หรือเราอาจจะรอให้หิวก่อน แล้วค่อยไปหาดูว่ามีอะไรขายบ้าง
ปัญหา คือ บางทีเราก็อาจจะเผลอไปกินอะไรที่ไม่ควรกิน จนทำให้เครียดและโทษตัวเองได้ จริงแล้วการแก้ปัญหา มันอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดครับ
ผมอยากให้เพื่อนๆนึกภาพชีวิตเราดังนี้ครับ สมมุติว่าการไม่วางแผนว่าจะกินอะไรในวันนี้ วันพรุ่งนี้ หรือทั้งอาทิตย์ คือ การควบคุมอาหาร 0%
ส่วนในอีกด้านหนึ่ง คือ การทำอาหารเอง แพลนว่าจะกินอะไร แล้วเตรียมอาหารให้ครบ 7 วัน คือ การคุมอาหาร 100%
แทนที่เพื่อนๆจะเครียดว่าเราต้องทำให้ได้ 100% ผมแนะนำว่าเราเริ่มจาก 1-10% ก็ได้ครับ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำ Intermittent Fasting 16/8 ทีกินวันละ 2 มื้อ หรือ 14 มื้อใน 1 อาทิตย์ เราแค่เริ่มเตรียมอาหารที่มีประโยชน์เอง หรือแพลนว่าจะกินอะไรแค่ 1-2 มื้อต่ออาทิตย์ก่อนเท่านั้น
การทำแค่นี้ เพื่อนๆก็จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ทำให้เรามีกำลังใจที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆนั่นเองครับ
ปัญหาที่ 3 “ติดขนม หรืออยากกินอะไรหวานๆบ่อยๆ”
บางทีเพื่อนๆอาจจะชอบกินเค้ก กินคุ๊กกี้ กินขนมห่อ หรืออะไรก็ตามที่มีส่วนผสมของน้ำตาลบ่อยๆ จนเป็นสัยที่แก้ยาก
ผมอยากบอกว่านี่เป็นเรื่องปรกติมากๆที่ผู้หญิงทุกคนเป็นครับ
สิ่งที่ผมอยากให้เพื่อนๆเข้าใจก่อนคือ อาหารเหล่านี้มันไม่ได้มีแค่ความหวานเพียงอย่างเดียว แต่ผู้ผลิตเขาอยากให้เราเสพติดอาหารด้วย
เขาจึงผสมไขมัน เกลือ และน้ำตาลในสัดส่วนที่ลงตัว จนมันทำให้เราชอบรสชาติ และสมองก็จะต้องการอาหารเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ต่อมา ที่เราเลิกกินขนม และของกินรสชาติหวานๆยาก มันไม่ใช่แค่ว่าเราติดรสชาติเพียงอย่างเดียวครับ แต่อาหารพวกนี้หาซื้อง่ายมาก และมักจะราคาถูกกว่าอาหารคลีนเสียอีก
ผมแนะนำให้เริ่มต้นง่ายๆด้วยการ กำจัดขนมและอาหารขยะออกจากบ้านให้หมด เพราะถ้าเราไม่เห็น เราก็จะไม่นึกอยากจะกิน และสามารถควบคุมตัวเองได้
แล้วเราก็แทนที่ด้วยอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวโอ๊ต เนยถั่ว 100% และขนมปังโฮลวีท เป็นต้น
ทีนี้เวลาไปซื้อของ ผมแนะนำให้กินอาหารก่อนออกจากบ้าน ถ้าไม่มีเวลาก็ชงเวย์โปรตีนกับนมไปก่อนได้ เพื่อที่เราจะได้มีสติในการซื้อของมากขึ้นครับ
ปัญหาที่ 5 “ต้องกินอาหารข้างนอกบ่อยมาก”
ตอนนี้ร้านอาหารมีมากขึ้น และเมนูอาหารก็มีหลายรูปแบบจนเราต้องมานั่งคิดว่า จะไปกินอะไรที่ร้านไหนดี
การกินอาหารข้างนอก ถ้านานๆทีและมันเป็นเมนูที่เราไม่ได้กินมาทั้งอาทิตย์ เช่น แกงอินเดีย หรือขนมปังกระเทียม บวกคาโบนาร่า
ผมอยากแนะนำให้กินเป็น Cheat Meal ไปเลยดีกว่า โดยไม่ต้องรู้สึกผิดหรือโทษตัวเอง
แต่ถ้าเรากินข้างนอกบ่อยๆ ผมแนะนำให้แพลนล่วงหน้าดีกว่าว่า จะไปกินอะไรและกินที่ไหน เพื่อที่เราจะได้ดูล่วงหน้าว่าทางร้านมีเมนูอะไรที่ดีต่อการลดไขมัน
และวันนี้ ผมมี 6 คำแนะนำดีๆ ในการกินอาหารข้างนอกมาฝากครับ
- สั่งผักมาด้วย เช่น สั่งสลัดให้ได้ ½ หนึ่ง ของจานที่เรากิน
- สั่งเนื้อสัตว์ติดมันน้อยหรือแหล่งโปรตีนอื่นๆ เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ และเต้าหู้ เป็นต้น
- เลี่ยงขนมปังขาว และของทอดทุกชนิด
- ถ้าเมนูมีซอสราด สั่งแยกดีกว่า แล้วเรามาราดเอง
- พยายามกินอาหารช้าๆ
- กินให้อิ่มแค่ 80% เท่านั้นครับ
คำแนะนำเหล่านี้ทำตามง่าย และเพื่อนๆสามารถนำไปใช้ได้จริงในร้านอาหาร Fine Dining และตามร้านอาหารทั่วไปด้วยครับ
ปัญหาที่ 5 “ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเลย”
ผมเข้าใจเพื่อนๆหลายคนนะครับที่มีความรับผิดชอบเยอะ และบางทีการไปซื้ออาหารข้างนอก มันก็สะดวกดี ไม่ต้องเสียเวลาเตรียม และล้างจานเองด้วย
ปัญหาจริงๆมันไม่ได้อยู่ที่เวลาเลยครับ เราอาจจะคิดว่าเราไม่มีเวลาเตรียมอาหาร แต่ถ้ามองจริงๆ ผมว่าเราไม่อยากที่จะเริ่มเตรียมอาหารเองมากกว่า
สิ่งที่ผมย้ำอยู่เสมอ คือ พยายามเริ่มจากสิ่งเล็กๆที่เราทำได้ก่อน เช่น ถ้าเรากินอาหาร 14 มื้อใน 1 อาทิตย์ เราก็เริ่มเตรียมแค่ 1 มื้อเองใน 1 อาทิตย์ก่อน
ต่อมาพอเราเริ่มบริหารเวลาได้ดีขึ้น และสามารถเตรียมอาหารได้ 1-3 มื้อต่ออาทิตย์ เราก็ค่อยเพิ่มเป็น 4-5 มื้อไปเรื่อยๆครับ
นี่คือหลักการลดไขมันและการดูแลสุขภาพที่จะใช้ได้ตลอดไป มันควรจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่หักดิบทุกอย่างไปเลย
สิ่งที่เพื่อนๆควรทำตอนนี้ คือ ถามตัวเองครับว่า เราบริหารเวลาได้มากแค่ไหน และเราสามารถทำเมนูอะไรได้บ้าง
เช่น เราอาจจะเริ่มจากการต้ม หรือตุ๋นไข่ใส่เนื้อหมูสับในไมโครเวฟก่อนก็ได้ พอมันเริ่มง่ายขึ้น เราก็ค่อยมาคิดต่อว่า เราจะเพิ่มเมนูที่เราชอบอะไรเข้ามาอีกบ้าง เป็นต้นครับ
ปัญหาที่ 6 “ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ และดื่มเป็นประจำ”
การดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ จิน บรั่นดี และวิสกี้ ถ้านานๆที มันก็จะไม่มีผลต่อการลดไขมัน และสุขภาพเลย แต่ถ้าดื่มเยอะเกินไป มันก็อาจจะทำให้เราอ้วนขึ้น และมีปัญหาสุขภาพตามมาได้
แต่คำถามคือ แค่ไหนเรียกว่า “ดื่มมากเกินไป”? เช่น เพื่อนๆอาจจะดื่มไวน์วันละ 3 แก้วหลังอาหาร แบบนี้เรียกว่าเยอะไปหรือเปล่า?
หรือบางทีเพื่อนๆอาจจะไม่ดื่มเลยมาทั้งอาทิตย์ แต่วันเสาร์อาทิตย์เลยจัดหนัก แบบนี้เรียกกว่าเยอะไหม?
การดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน มันก็อาจจะมีผลกับการใช้ชีวิตได้ เช่น อาจจะทำให้เรานอนหลับยาก ทำอะไรโดยไม่คิดให้ดีก่อน
และระหว่างที่กำลังดื่มอยู่ อาจจะมีความอยากอาหารมากขึ้นได้ โดยเฉพาะของมันของทอด เป็นต้น
สำหรับเพื่อนๆที่ดื่มนะครับ ผมแนะนำให้ถามตัวเอง 3 คำถามนี้ทุกครั้ง
- เราดื่มน้อยลงได้ไหม เช่น ถ้าดื่ม 3 แก้วทุกวัน เราดื่มแค่ 1-2 แก้ว ได้หรือเปล่า?
- เราดื่มช้าลงได้ไหม เช่นดื่มแค่ 1-2 แก้ว แล้วให้อยู่ได้ทั้งคืน?
- เราสามารถดื่มน้ำระหว่างการดื่มได้ไหม เช่น อาจจะพักดื่มน้ำระหว่างการดื่มไวน์แก้วต่อไป เป็นต้น
ถ้าการดื่มแอลกอฮอล์มันไม่ทำให้ชีวิตและงานเราแย่ลง เราไม่จำเป็นต้องเลิกดื่มเลย เราแค่มีสติมากขึ้น และควบคุมปริมาณให้ดีแค่นั้นเอง
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เพื่อนๆจะเห็นแล้วนะครับว่า ปัญหาในการกินอาหาร หรือการไดเอท เพื่อลดไขมัน สาเหตุอาจจะไม่ใช่ “ไม่รู้ว่าจะกินอะไร หรือควรกินอะไร”
แต่มันมีมากกว่านั้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการเอาชนะข้อแก้ตัวต่างๆในหัวเรา
สิ่งสำคัญที่ผมอยากฝากไว้ คือ การลดไขมันเราควรทำให้ยั่งยืน เราควรปรับการลดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร และการออกกำลังกาย ให้เข้ากับชีวิตเรา ไม่ใช่ปรับชีวิตเราให้เข้ากับการลดไขมัน
ท้ายสุด การเริ่มทำในสิ่งเล็กๆที่เราทำได้แล้วทำสำเร็จ เราก็จะมีกำลังใจมากขึ้นที่จะสู้ต่อไป และมันจะเป็นเหมือนการก้าวขึ้นบันได เพื่อไปถึงเป้าหมายในที่สุด สู้ๆนะครับ
ถ้าเพื่อนๆยังมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร คอมเมนต์มาได้เลย แล้วผมจะเข้ามาตอบทุกคอมเมนต์
ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากจะปรึกษาเกี่ยวกับการทำ Intermittent Fasting การลดน้ำหนัก และลดไขมัน แบบถูกวิธี
แอดไลน์ตามลิ้งก์ด้านล่าง มาคุยกันและปรึกษาก่อนได้ฟรี ถ้าเคมีเราตรงกัน แล้วอยากเทรนออนไลน์ ผมก็มีคอร์สที่เหมาะสมกับความฟิตทุกระดับของเพื่อนๆครับ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
LINE@ | Facebook | Instagram |YouTube












