เข้าฟิตเนส ออกกำลังกาย จำเป็นต้องจ้างเทรนเนอร์ไหม?
เพื่อนๆเคยสงสัยไหมครับว่า จริงๆแล้วเราจำเป็นต้องจ้างเทรนเนอร์ เพื่อมาดูอาหาร โภชนาการ โปรแกรมการออกกำลังกาย
และการปรับฟอร์มในการออกกำลังกาย เพื่อให้เราพัฒนาร่างกายได้ถูกต้อง และไม่เสียเวลาหรือเปล่า?
ประเด็น คือ เราอาจจะไม่แน่ใจว่า เวทเทรนนิ่งจะต้องเล่นท่าไหนบ้าง
ถ้าอยากจะลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อ ให้หุ่นเฟิร์มขึ้นไปพร้อมกัน เราควรกินอาหารยังไงและกินเยอะแค่ไหน เป็นต้น
แต่พอมาคิดดูอีกที ข้อมูลต่างๆในอินเตอร์เน็ตก็มีให้เราศึกษาเยอะอยู่แล้ว
ถ้าเราไม่จ้างเทรนเนอร์ แล้วมาออกกำลังกายและควบคุมอาหารเอง น้ำหนักเราก็จะลดเหมือนกันหรือเปล่า ขอแค่ให้เรามีวินัยก็พอ?
สวัสดีครับ ผมโค้ชเค Fitterminal.com และวันนี้ ผมจะมาแนะนำ 5 ประโยชน์ของการมี Personal Trainer เพื่อการตัดสินใจว่า ถ้าจ้างเทรนเนอร์มันจะคุ้มกับเราหรือเปล่า จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
ออกกำลังกาย & คุมอาหาร เพื่อลดน้ำหนัก จำเป็นต้องจ้างเทรนเนอร์ไหม?
อย่างที่เพื่อนๆรู้แล้วว่า ในการลดนำ้หนัก ลดไขมัน สร้ากล้ามเนื้อให้มีหุ่นฟิตและเฟิร์ม หรืออยากจะมีสุขภาพดี เราจะต้องออกกำลังกายและการควบคุมอาหารไปพร้อมกัน
ทีนี้ ก้าวแรกสำหรับเพื่อนๆส่วนใหญ่ อาจจะเริ่มจากการศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเอง และนำมาปรับใช้กับตัวเรา จนได้ผลลัพธ์ที่ดี เช่น กลับไปใส่เสื้อผ้าตัวเดิมได้แบบมั่นใจขึ้น เป็นต้น
ต่อมา พอเรามีการปรับอาหารการกิน และออกกำลังกายตามคลิปมาเองบ้างแล้ว เราก็อาจจะอยากสร้างกล้ามเนื้อ อยากจะเพิ่มการเบิร์นไขมัน อยากจะรู้ว่าต้องเล่นเวทเทรนนิ่งให้มากขึ้นแค่ไหน
ควรเล่นคาร์ดิโออะไรเป็นหลัก และต้องกินอาหารให้ดีขึ้นยังไง เพื่อพัฒนาร่างกายให้ถูกต้องและไปถึงเป้าหมายในที่สุด เป็นต้น
ดังนั้น คำถาม คือ จริงๆ ร่างกายเรามาถึงจุดที่ต้องพัฒนาในระดับต่อไปหรือยัง เราควรเข้ายิมและจำเป็นต้องมีเทรนเนอร์ไหม เพราะว่าที่ฟิตเนสจะมีอุปกรณ์และสถานที่พร้อมกว่า
หรือถ้าติดเรื่องเวลาเดินทาง เราควรจะเรียนออนไลน์ มีการส่งการบ้าน และออกกำลังกายเองที่บ้าน หรือพื้นที่ส่วนกลางคนโดดีไหม เป็นต้น
ต่อมา พอเราศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการกินอาหารและการออกกำลังกายมาเรื่อยๆ เพื่อนจะเริ่มเห็นว่าข้อมูลจะมีเยอะมาก เช่น การกินอาหารและการออกกำลังกายตาม YouTube, Instgram หรือแม้แต่ Tiktok
ซึ่งจนอาจจะทำให้เราสับสนได้ และ Personal Trainer จะช่วยคอยตอบคำถาม ให้คำแนะนำ ออกแบบการกินอาหาร และการออกกำลังกายที่เหมาะกับเรา และอาจจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นได้
แน่นอนว่า การจ้างเทรนเนอร์จะเป็นค่าใช้จ่าย และอาจจะมีราคาสูงสำหรับเพื่อนๆบางคน
และบางทีเราอาจจะได้ยินว่า เราไม่จำเป็นต้องมีเทรนเนอร์ ออกเองก็ได้ และเทรนเนอร์ที่ฟิตเนส ก็มักชวนคุยให้หมดชั่วโมง และลูกเทรนก็ยังอ้วนเหมือนเดิม เป็นต้น
Personal Trainer คือใคร & คุ้มไหมถ้าจ้างเทรนเนอร์?
Personal Trainer คือ คนที่มีความรู้และประสบการณ์ในการที่จะสร้างและติดตามผล โปรแกรมการออกกำลังกายและการกินอาหาร ทั้งส่วนตัวและแบบกลุ่ม เพื่อให้มีความปลอดภัย และตรงตามเป้าหมายของลูกเทรน
เทรนเนอร์ส่วนใหญ่จะผ่านการเข้าคอร์สระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการกินอาหารเบื้องต้น
เช่น การทำงานระหว่างสมอง กระดูก และมวลกล้ามเนื้อ หรือ “Kinetic Chain” และการออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย ที่เหมาสมกับระดับความฟิตของเรา เป็นต้น
ประเด็น คือ ถ้าเราไม่มีโปรแกรมการออกกำลังกายที่แน่นอน และออกแบบมาสำหรับเราโดยเฉพาะ เราอาจจะทำแล้วไม่ได้ผล เสียเวลา และเสี่ยงที่จะบาดเจ็บได้
เช่น เพื่อนๆที่ออกกำลังกายตามคลิปต่างๆ อาจจะเริ่มเห็นว่า ร่างกายเราเหมือนย่ำอยู่กับที่ หรือไขมันไม่ขยับเลย เป็นต้น
ซึ่งพอน้ำหนักค้างหรือไขมันไม่ลด เราอาจจะยังสงสัยว่า จะต้องเล่นอะไรเพิ่ม ต้องมีดัมเบลไหม น้ำหนักเท่าไหร่ ยกกี่ครั้ง และต้องต้องตัดแป้ง หรือทำ Low-carb หรือเปล่า เป็นต้น
ทีนี้ จากประสบการณ์ในการเทรนออนไลน์มาหลายปี ผมสังเกตว่าเพื่อนๆส่วนใหญ่จะไม่ได้ติดเรื่อง การจ่ายเงินค่าเทรนเนอร์
เพราะ 2 เหตุผลหลัก ที่ทำให้เราลังเลและไม่กล้าซื้อคอร์สเทรนเนอร์ คือ
- เขามีความรู้และประสบการณ์ที่จะช่วยเราได้หรือเปล่า
- พอเราเสียเงินค่าเทรนไปแล้ว เราจะทำได้ไหม หรือมีวินัยมากพอหรือเปล่า เพราะเราอาจจะทิ้งไปหลายคอร์ส เป็นต้น
ดังนั้น ก้าว คือ เราจะต้องถามตัวเองก่อนว่า เราจะเอาจริงหรือเปล่า และแน่ใจไหมว่าจะทำให้ดีที่สุด
แล้วเราค่อยมาดูว่า ตอนนี้เป้าหมายและประสบการณ์ในการไดเอท และการออกกำลังกายของเรา อยู่ที่ระดับไหน และถึงเวลาที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลหรือยัง?
เรามาดูกันต่อครับว่า 5 ข้อดีของการจ้างเทรนเนอร์มีอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. เพิ่มความรับผิดชอบให้กับตัวเอง (Accountability)
ข้อดีเด่นๆของการจ้างเทรนเนอร์ คือ เราจะได้เห็นการวางแผนการกินอาหาร และการออกกำลังกายที่ถูกต้อง มีหลักการ และเหมาะกับเป้าหมายของเรา
ถึงแม้ว่าจะเทรนกันแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆก็ตาม และเทรนเนอร์ยังจะเป็นคนคอยดูแลและร่วมเดินทางไปกับเรา จนไปถึงเป้าหมายด้วย
ตอนนี้ เราสามารถที่จะเข้าฟิตเนสแล้วจ้างเทรนเนอร์ ซึ่งอาจจะเป็นการเหมาจ่าย 10-15 ชั่วโมง หรือเราอาจจะเรียนออนไลน์ ที่จะออกกำลังกายเองที่บ้าน หรือที่คอนโด ก็ได้เหมือนกัน
เพราะ 2 ปัจจัย ที่สำคัญในการออกกำลังกายและการไดเอทให้ได้ผล ยังจะเป็น
- การลงมือทำจริง โดยไม่มีข้อแม้กับตัวเอง
- การไดเอทและการออกกำลังกายที่ต่อเนื่อง จนเป็นนิสัย เป็นต้น
ซึ่งการมีเทรนเนอร์จะช่วยให้เราซื่อสัตย์กับตัวเอง ได้รู้ว่ามีคนรอดูเราอยู่ และถ้าเราต้องการความช่วยเหลือหรือคำแนะนำอะไร เราก็จะเข้าถึงเทรนเนอร์ได้เลยโดยตรง
จากการรวบรวมบทสรุปจากการวิจัย ตั้งแต่ปี 2004-2015 ยังพบว่า การมีเพื่อนร่วมทาง หรือ “Fitness Journey” และการปรับอาหารให้ถูกต้อง จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ดี และยั่งยืนกว่า (1)
สิ่งสำคัญต่อมา คือ การตั้งเป้าหมายให้เหมาะสม มีระยะเวลาที่แน่นอน และใกล้เคียงกับความเป็นจริง เช่น เราอาจจะอยากวิ่งมาราธอนอีก 3 เดือนข้างหน้า หรืออยากจะลดน้ำหนัก 20 กิโลกรัมใน 1 เดือน เป็นต้น
ซึ่งการมีเทรนเนอร์จะช่วยให้เราเริ่มปรับความคาดหวัง และความเป็นจริงให้ใกล้เคียงกัน แล้วมีการวางแผนที่ชัดเจนขึ้น เพื่อให้เรารู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง และผลลัพธ์ที่ควรจะได้คืออะไร เป็นต้น
2. เราจะได้ความรู้เพิ่มเกี่ยวกับสุขภาพ ความฟิต และร่างกายของเรา
เทรนเนอร์ส่วนใหญ่จะต้องผ่านการอบรม CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) ก่อนที่จะเข้าเรียนคอร์สจากสถานบันที่น่าเชื่อถือ เช่น
ซึ่งในคลาสเรียนนี้ จะมีทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ การทำงานทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร และวิทยาศาสตร์การออกกำลังกาย
เช่น รู้ไหมครับว่า แค่ท่า Squat ง่ายๆ เทรนเนอร์จะไม่ได้ดูแค่ว่า กล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) ทำงานเป็นหลักหรือเปล่า
เพราะจะต้องสังเกตด้วยว่า ฝ่าเท้าเราจิกพื้นไว้ได้ดี ลงน้ำหนักได้เต็มฝ่าเท้าไหม ข้อเท้าต้องยืดเพิ่ม ก้นหุบเกินไป หรือไม่เก็บคางเปล่า เป็นต้น
ดังนั้น การมีเทรนเนอร์จะช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการกินอาหารของเรา ความฟิตของเราตอนนี้ และฟอร์มในการออกกำลังกายที่ถูกต้องนั่นเองครับ
3. ช่วยให้เราไม่เสียเวลา หรือไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
อย่างที่เรารู้ดีครับว่า “สายน้ำไม่คอยท่า กาลเวลาไม่คอยใคร”
และข้อผิดพลาดที่ผมเจอบ่อยมากๆ คือ เพื่อนๆหลายคนจะไปเสียเวลากับรูปแบบการออกกำลังกาย และการไดเอทที่ผิดวิธี
เช่น พอตัวเล็กลง สัดส่วนเริ่มดีขึ้น แต่น้ำหนักไม่ลด เราอาจจะคิดว่ากินอาหารและออกกำลังกายไม่ได้ผล แล้วไม่กินแป้งเลย จนกล้ามเนื้อหาย เป็นต้น
ดังนั้น การมีเทรนเนอร์จะช่วยอธิบายให้เราเข้าใจได้ว่า ตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเรา มันดีหรือไม่ดี และเราควรทำตามแผนต่อไป หรือควรปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เป็นต้น
ต่อมา ท่าออกกำลังกาย วิธีการไดเอท หรือแผนออกกำลังกายตามอินเตอร์เน็ต ถึงแม้ว่าจะดูดี แต่เราอาจจะทำตามแล้วไม่ได้ผลเหมือนกัน
นั่นเป็นเพราะว่า ร่างกายเราจะไม่เหมือนคนอื่น และการใช้ชีวิต ระดับความฟิต และเวลาของเรา จะแตกต่างกันด้วย
เช่น รู้ไหมครับว่า บางทีขาขวาจะยาวกว่าขาซ้าย หรือสะโพกอาจจะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า ซึ่งนี่จะเรียกว่า “Muscle Imbalance”
ซึ่งการมีโปรแกรมออกกำลังกาย ที่ออกแบบมาสำหรับตัวเราโดยเฉพาะ จะช่วยปรับกล้ามเนื้อให้มีความสมดุลมากขึ้น เราไม่เสี่ยงที่จะบาดเจ็บ และพัฒนาร่างกายจนไปถึงเป้าหมาย เป็นต้น (2)
ปัญหาต่อมา คือ เราอาจจะไม่มั่นใจเวลาใช้อุปกรณ์ในฟิตเนส และไม่รู้ว่าต้องเล่นยังไงด้วย หรือถ้าสังเกตจริงๆ เวลาไปฟิตเนส เราอาจจะเดินแค่ลู่วิ่ง หรือเล่นเครื่องเดินวงรีเท่านั้น
ซึ่งการมีเทรนเนอร์จะช่วยให้เราได้เรียนรู้ท่าออกกำลังกายต่างๆ การใช้อุปกรณ์ ที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ (3)
เช่น การทำท่า Leg Extension Machine การใช้ Dumbbells และ Barbell ที่ถูกต้อง เป็นต้น
4. เราจะเริ่มกินอาหารได้ถูกต้อง และเหมาะสมกับร่างกาย
เพราะเราจะไม่สามารถออกกกำลังกายอย่างเดียว โดยไม่คุมอาหารได้ หรือควรทำควบคู่ไปพร้อมกันดีกว่า (4)
ซึ่งเทรนเนอร์ จะสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้น ที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เช่น
- การปรับสัดส่วนของโปรตีน คาร์บ และไขมัน (Macronutrients)
- อาหารเสริมที่เราอาจจะต้องมีเผื่อไว้ และควรปรึกษาแพทย์อีกทีด้วย
- ปริมาณน้ำที่ควรดื่มต่อวัน ตามน้ำหนักตัว และกิจกรรมใน 1 วัน
- ชนิดของอาหารที่เราควรกินเป็นหลัก และอาการแพ้อาหารเบื้องต้น
- การปรับพฤติกรรมการกินอาหารให้ได้ผลในระยะยาว เช่น มี Cheat Meal ที่เหมาะสม เป็นต้น
5. ช่วยให้เราเปลี่ยน Lifestyle & และ Mndset ให้ดีขึ้น
รู้ไหมครับว่า เราอาจจะใช้เวลาส่วนใหญ่ ในการจ้องมองร่างกาย แค่ตรงที่เราอยากจะเปลี่ยนหรือไม่พอใจ
โดยเฉพาะไขที่ต้นขา และไขมันหน้าท้อง จนอาจจะเครียด รู้สึกท้อ และลืมมองจุดเด่นอื่นๆในตัวเราที่ดีขึ้นแล้ว
การมีเทรนเนอร์จะช่วยให้เราเริ่มเห็นพัฒนาการของร่างกายทั้งหมดไปพร้อมกัน เช่น มองว่ามีตรงไหนที่ยังต้องทำให้ดีขึ้น และตรงไหนที่ดีมากแล้ว
ซึ่งการมี Support System ที่ช่วยให้เราเริ่มมองเห็นภาพที่กว้างขึ้นแบบนี้ อาจจะช่วยให้เรามี Mindset ที่ดีขึ้น มีกำลังใจ และมีพลังบวกมากขึ้นได้
นอกจากนี้ การออกกำลังกาย จะกระตุ้นให้ปอดและหัวใจทำงานขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สมองได้รับเลือดและออกซิเจนมากขึ้น และร่างกายยังจะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เรามีความสุข และรู้สึกภูมิใจในตัวเองออกมามากขึ้นด้วย
ท้ายสุด วันๆหนึ่งเราอาจจะยุ่งๆ จนไม่ได้สังเกตเลยว่าทำอะไรไปบ้าง เช่น เราอาจจะนั่งนานเกินไป ดื่มน้ำน้อย และนอนไม่ครบ 8 ชั่วโมง เพราะเล่นมือถือเพลินเกินไป (5)
ดังนั้น การมีเทรนเนอร์ที่ดีและคอย Follow Up เราตลอด จะช่วยให้เริ่มมีสติในการทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ที่เอื้อต่อการลดน้ำหนัก ลดไขมัน และสุขภาพที่แข็งแรง
เช่น เราอาจจะต้องส่งการบ้านอาหารที่กิน เช็คเวลานอน และปริมาณน้ำที่ดื่มใน 1 วัน เป็นต้น
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เพื่อนๆครับ จริงอยู่ว่า เราจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการกินอาหารและการออกกำลังกายได้เอง โดยไม่ต้องมีเทรนเนอร์เลย
แต่การมี Personal Trainer จะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการออกแบบการกินอาหาร และการออกกำลังกายที่ได้ผล เหมาะกับเป้าหมาย และปลอดภัยสำหรับเราด้วย
นอกจากนี้ การมีเทรนเนอร์จะเป็นเหมือนว่า เรามีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน คอยให้คำแนะนำ และช่วยแก้ปัญหาระหว่างการเดินทาง หรือ fitness journey ของเรา เป็นต้นครับ
ตอนนี้ เพื่อนๆชอบออกกำลังกายเอง หรืออยากมีเทรนเนอร์มากกว่าครับ?
ถ้ายังมีคำถาม หรือคำแนะนำดีๆ คอมเมนต์หรือว่ามาแชร์ประสบการณ์ได้เลยที่ด้านล่าง
และถ้าตอนนี้เพื่อนๆไม่อยากเสียเวลาไปกับการลดไขมัน และการออกกำลังกายที่ผิดวิธี และอยากจะมีหุ่นในฝันให้ตัวเองภูมิใจ ภายใน 3-6 เดือนนี้
แอดไลน์มาตาม Link ด้านล่าง มาสอบถาม และพูดคุยกันก่อน และถ้าเคมีเราตรงกัน ผมก็มีคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับเพื่อนๆโดยเฉพาะ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร | YouTube | Facebook | Instagram | LINE