ยาคูลท์ ดื่มตอนลดน้ำหนักทำให้อ้วนไหม?
ยาคูลท์ (Yakult) นมเปรี้ยว Probiotic ที่มีแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รสชาติอร่อย ลักษณะ “คอคอด” ที่เด่น ช่วยให้ถือดื่มได้สะดวก ราคาถูก แถมมีประโยชน์อีกต่างหาก
ในบทความนี้ ผมโค้ชเคจะมาไปดูกันครับว่า ยาคูลท์คือยาหรือนม มีประโยชน์อะไรบ้าง และที่สำคัญเจ้านมรสหวานๆนี้ กินแล้วทำให้น้ำหนักขึ้นไหม (กลัวอ้วน!)
เรื่องย่อ ยาคูลท์ (Yakult)
ตอนแรกพอผมได้ยินคำว่า “ยาคูลท์” ผมก็นึกว่ามันคือยาชนิดหนึ่ง ตอนหลังถึงได้รู้ว่าบริษัทที่ประเทศญี่ปุ่น ยืมคำศัพท์ คำว่า Jahurto มาจากภาษา Esperanto ความหมายก็คือ “อายุยืน” ง่ายๆครับ เราจำแค่ว่ามันคือนมเปรี้ยว ไม่ใช่ยาก็พอ
ผมเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า “แลคโตบาซิลลัส” ที่อยู่ในยาคูลท์กันดี ประโยชน์หลักๆที่เราควรรู้คือ แบคทีเรียชนิดนี้มีส่วนช่วยย่อยอาหาร ลดอาการติดเชื้อในลำไส้ และช่วยในเรื่องของการขับถ่าย
เด็กเล็กที่ต่ำกว่า 1 ขวบ คุณแม่อย่าเพิ่งให้ดื่มยาคูลท์นะครับ ควรให้ดื่มนมแม่หรือผลไม้บดไปก่อน ส่วนคุณแม่หลังคลอด หรือที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ สามารถดื่มได้เลย ไม่เป็นอันตรายครับ
ยาคู้ลค์ใช้เป็นยาแก้ท้องเสียได้ไหม?
หลายคนเข้าใจผิดมาตลอดว่า ยาคูลท์คือยาแก้ท้องเสีย แต่ยาคูลท์คือนมเปรี้ยวครับ ไม่ใช่ยาแก้ท้องเสีย การพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่ถูกต้อง และรับยามากินต่างหาก คือวิธีรักษาอาการท้องเสียที่ถูกต้อง ยาคูลท์มีประโยชน์จริง แต่มันไม่ใช่ยาวิเศษครับ
ยาคู้ลค์ทำไมต้องดื่มเย็นๆ?
เหตุผลที่สาวยาคูลท์เขาต้องส่งแบบเย็นๆตลอดเพราะว่า แบคทีเรียที่อยู่ในขวดจะตายทันทีถ้าอุณภูมิสูงเกินไป ดังนั้นก่อนจะซื้อให้สังเกตด้วยว่าคนขายใส่น้ำแข็งมาในถังพอดีหรือเปล่าด้วย เพราะถ้าน้ำแข็งหมดมันก็ไม่ต่างอะไรกับการดื่มนมที่มีน้ำตาลธรรมดาครับ
อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ อย่าลืมดูวันหมดอายุ และถ้าซื้อจากข้างนอก ให้สาวยาคูลท์ใส่น้ำแข็งมาด้วย เพื่อรักษาความเย็น พอมาถึงบ้านก็ให้เก็บใส่ตู้เย็นให้เรียบร้อย
ดื่มวันละกี่ขวดดี?
ผมเคยเห็นบางคนดื่มยาคูลท์วันละ 6 ขวดตอนเช้า! ผมว่าออกไปทำงานคง ข**แตกที่ทำงานแน่ๆ เพราะปริมาณที่แนะนำให้ดื่มต่อวันคือ 1 ขวดเท่านั้น ถ้าดื่มเยอะกว่านี้อาจจะ (ส่วนใหญ่) ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ เพราะร่างกายเรามีจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในยาคูลท์อยู่แล้ว อะไรที่เยอะไปมันก็ส่งผลเสียอย่างนี้แหละครับ
น้ำตาล 3.5 ช้อนชา เยอะไปไหม?
ยาคูลท์ 1 ขวด ขนาด 80 มิลลิลิตร จะให้พลังงานทั้งหมด 71 แคลอรี่ ปริมาณแคลอรี่แค่นี้ถือว่าน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์
ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ มักจะไม่ค่อยดื่มแค่วันละขวด ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานแคลอรี่เยอะเกินกว่าที่ร่างกายเผาผลาญต่อวัน ย้ำอีกทีว่าแค่วันละขวดก็พอแล้วครับ ได้ประโยชน์เหมือนกัน (ประหยัดเงินด้วย)
ปริมาณน้ำตาลจะเท่ากับ 3.5 ช้อนชา ซึ่งถือว่าเยอะเหมือนกัน น้ำตาลในยาคูลท์ที่มีในปริมาณที่สูงนั้น นอกจากจะเพื่อให้ถูกปากคนส่วนใหญ่แล้ว (โดยเฉพาะคนไทย) น้ำตาลยังใช้เป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียด้วย แบคทีเรียในขวดยังไม่ตาย จึงต้องการอาหารครับ
จริงๆแล้วช่วงแรกๆ บริษัทผลิตขึ้นมาเพื่อให้ถูกปากคนส่วนใหญ่ ปริมาณน้ำตาลจึงค่อนข้างจะเยอะพอสมควร หลังจากที่เทรนด์สุขภาพมาแรง เขาก็ได้เปิดตัวสินค้าแบบ “Light” หรือสูตรหวานน้อย แต่เสียดายที่มีขายแค่ในต่างประเทศเท่านั้น เช่น ประเทศออสเตรเลีย ผมว่านักการตลาดของบริษัทคงทำการสำรวจและผลน่าจะออกมาว่า คนไทยเราชอบรสชาติแบบดั้งเดิมมากที่สุด
ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเราดื่มยาคูลท์แค่วันละ 1 ขวด ตามปริมาณที่แนะนำ ผมรับรองว่า พลังงานแค่ 71 แคลอรี่ ที่ได้จากยาคูลท์ไม่ทำให้เราอ้วนแน่นอน
ฝากไว้…ก่อนไป
ยาคูลท์ (Yakult) คือ นมเปรี้ยวที่มีประโยชน์ ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย และระบบย่อยอาหาร
ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่เราก็ไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 ขวด ตามปริมาณที่แนะนำ เพราะถ้าดื่มเยอะเกินไป นอกจากจะทำให้น้ำหนักเกินแล้ว จุลินทรีย์ที่เยอะเกินไป อาจจะทำให้หลายคนท้องเสียได้
ยาคูลท์ไม่ใช่ยาแก้ท้องเสีย เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ คุณแม่ยังไม่ควรให้ดื่ม เด็กหรือผู้ใหญ่ที่แพ้นมวัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะอาจจะเกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้
สิ่งที่ผมอยากฝากไว้ก่อนไปคือ ไม่ว่าจะเป็นยาคูลท์ หรือจะเป็นเครื่องดื่มชนิดอื่น ถ้าเราไม่รู้จักควบคุมปริมาณ ผลข้างเคียงก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพลังงานแคลอรี่ที่เกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เพราะนี่คือสาเหตุที่เรามีไขมันรอบพุง และน้ำหนักเกินครับ