ลดไขมันยังไง ไม่ให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ? (PART II)
อย่างที่เกริ่นไปในบทความที่แล้ว (คลิกอ่าน) ว่าการลดไขมันที่ดีเราต้องดูแลเรื่องสารอาหารให้ดี เพื่อที่หุ่นเราจะได้ลีน สวย และไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ เพราะมวลกล้ามเนื้อมันสร้างยาก แต่หายไปได้แค่พริบตา ถ้าเราละเลยเรื่องสารอาหาร
ในบทความแรกผมได้พูดถึงปริมาณแคลอรี่ต่อวันที่พอเหมาะในการลดไขมัน และกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty Acids) เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3) ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ลดความเสื่อมสภาพของร่างกาย และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วหลังออกกำลังกาย
วันนี้ผมโค้ชเคจะพาทุกคนมารู้จักกับ สารอาหารหลัก (Macronutrients) กันต่อว่าคืออะไร และสำคัญกับการลดไขมันอย่างไร
เราจะมาเริ่มด้วยโปรตีน (Protein) กันก่อนเลยครับ
โปรตีน (Protein) กับการลดไขมัน
ผมว่าทุกคนคงเคยเห็น “นักเพาะกาย” ที่มีกล้ามเนื้อเยอะๆ ตัวใหญ่ๆ บึกๆ ที่มีเป้าหมายอย่างเดียว คือ กินโปรตีนให้ได้เยอะๆเทรนเนอร์ส่วนใหญ่ก็มักจะบอกว่าให้เรากินโปรตีนเยอะเกินไป “ยิ่งกินให้มากเท่าไหร่ ยิ่งดี” ซึ่งถ้าจะพูดกันตรงๆ ผมว่ามันค่อนข้างจะไม่ถูกต้องเลยครับ
โปรตีนเป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อการสร้างกล้ามเนื้อ และระบบต่างๆของร่างกาย แต่ถ้าเรากินมากเกินไป เช่น กินเกิน 1.7-2 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 25-30% ของปริมาณแคลอรี่ที่ต้องกินต่อวัน
โปรตีนที่เกินมาก็จะถูกเผาผลาญเป็นพลังงานและก็เก็บไว้เป็นไขมันได้เหมือนกัน นี่คือที่มาของคำแนะนำที่ว่า ถึงเราจะกินคลีนทุกวันก็ไม่ผอม ถ้าเรากินเยอะเกินไป โดยไม่มีการควบคุมแคลอรี่ให้พอดี
โปรตีนที่ร่างกายได้รับจากอาหารที่เรากินเข้าไป จะถูกเปลี่ยนไปเป็นกรดอะมิโน (Amino Acids) ซึ่งจะมีทั้งชนิดที่ได้จากอาหารและที่ร่างกายเราสร้างขึ้นเองได้
จากนั้นร่างกายก็จะนำกรดอะมิโนเหล่านี้ไปใช้ เพื่อที่จะไปผลิตหรือสร้างโปรตีนให้กับระบบหรือส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ระบบเอนไซม์ ผม เล็บ และมวลกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ร่างกายเราต้องการพลังงานตลอดเวลา ถ้าแหล่งพลังงานชนิดอื่น นั่นคือ คาร์บและไขมันไม่มี กรดอะมิโนต่างๆนี่แหละครับคือแหล่งพลังงานแรกที่ร่างกายจะเผาผลาญมาใช้ก่อน ทั้งจากอาหารที่ได้และจากมวลกล้ามเนื้อเอง ถ้าเรากินอาหารไม่เพียงพอ เราก็จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ง่าย
หน้าที่เด่นๆของโปรตีนมีดังนี้
- เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่สำคัญ
- ควบคุมและปรับระดับความเป็นกรดด่างของเลือด
- สร้างแอนตี้บอดี้ (Antibodies)
- เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อในในอวัยวะสำคัญ เช่น ตับ หัวใจ ตับอ่อน มวลกล้ามเนื้อ และกระดูก เป็นต้น
- ควบคุมระดับน้ำในร่างกาย
รู้ไหมครับว่า อาหารที่มีโปรตีนสูงส่วนใหญ่จะมีสารอาหารชนิดอื่นที่สำคัญด้วย เช่น ธาตุเหล็ก (Iron) วิตามินบี (Vitamin B) โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ที่คนส่วนใหญ่มักจะได้รับน้อยเกินไป ธาตุสังกะสี (Zinc) และแมกนีเซียม (Magnesium) แค่ธาตุเหล่านี้จำเป็นมากสำหรับคนออกกำลังกายครับ
- ธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญในการสร้างอีโมโกลบิน (Haemoglobin) และไมโอโกลบิน (Myoglobin)
- ส่วนวิตามินบีจะเป็นเหมือนตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงาน และการทำงานของระบบเมตาบิลิซึม (Metabolism)
- วิตามินบี 12 จะเป็นตัวช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดและเส้นประสาท
- ธาตุสังกะสีมีส่วนสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อ เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ร่างกายต้องการแมกนีเซียมในการสร้างและรักษามวลกระดูก มวลกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และช่วยให้การทำงานของระบบเอนไซม์ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานให้เป็นปรกติ
ผมได้รวบรวม สุดยอดแหล่งโปรตีนที่เป็นอาหารเพิ่มกล้ามเนื้อ มีทั้งโปรตีนจากพืช และโปรตีนที่มาจากสัตว์ มาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
อาหาร (สุก) | ปริมาณ | พลังงาน (แคลอรี่) | โปรตีน (กรัม) |
---|---|---|---|
เนื้อไก่ (ลอกหนัง) | 85 กรัม | 141 | 28 |
เนื้อ (ติดมันน้อย) | 85 กรัม | 158 | 26 |
เนื้อหมู | 85 กรัม | 122 | 22 |
แฮม | 85 กรัม | 139 | 14 |
ไข่ (เบอร์ 0) | 1 ฟอง | 71 | 6 |
ปลาแซลมอน | 85 กรัม | 155 | 22 |
ปลาทูน่า | 85 กรัม | 99 | 22 |
กุ้ง | 85 กรัม | 101 | 20 |
ล็อบสเตอร์ | 85 กรัม | 76 | 16 |
หอยเชลล์ (สแกลล็อป) | 85 กรัม | 75 | 14 |
ถั่วเลนทิล | 1/2 ถ้วย | 101 | 9 |
ถั่วดำ | 1/2 ถ้วย | 114 | 8 |
ถั่วลูกไก่ | 1/2 ถ้วย | 134 | 7 |
ถั่วแดง | 1/2 ถ้วย | 112 | 8 |
ควินัว | 1/2 ถ้วย | 111 | 4 |
ถั่วแระญี่ปุ่น | 1/2 ถ้วย | 95 | 9 |
ถั่วเขียว | 1/2 ถ้วย | 59 | 4 |
เต้าหู้ | 100 กรัม | 110 | 16 |
ปวยเล้ง (ผักโขม) | 1/2 ถ้วย | 41 | 3 |
เมล็ดฟักทอง | 2 ช้อนโต๊ะ | 36 | 2 |
เมล็ดแฟลกซ์ | 2 ช้อนโต๊ะ | 110 | 4 |
เมล็ดทานตะวัน | 2 ช้อนโต๊ะ | 102 | 4 |
เมล็ดเจีย | 2 ช้อนโต๊ะ | 138 | 5 |
เนยถั่ว | 2 ช้อนโต๊ะ | 188 | 7 |
ถั่วอัลมอนด์ | 1 กำมือ | 163 | 6 |
ถั่วพิชตาชิโอ | 1 กำมือ | 160 | 6 |
ถั่วเฮเซลนัต | 1 กำมือ | 181 | 4 |
ถั่ววอลนัต | 1 กำมือ | 185 | 4 |
นมวัว (พร่องมันเนย) | 250 มล. | 83 | 8 |
กรีกโยเกิร์ต | 170 กรัม | 100 | 17 |
คอทเทจชีส | 1 ถ้วย | 222 | 25 |
หลักการกินโปรตีนอย่างฉลาด ปั้นหุ่นสวยและสร้างกล้ามเนื้อได้ตามเป้าหมาย
- เลือกกินอาหารให้หลากหลายตามตัวอย่างที่ให้ไป และเลือกกินชนิดที่มีไขมันมันหรือติดมันน้อยที่สุด
- อกไก่หรือเนื้อไก่ควรลอกหนังออก
- เนื้อไก่และปลาควรเลี่ยงแบบทอดที่ใช้น้ำมันพืชหรือการทอดจมน้ำมัน
- เลือกกินปลาที่มีไขมันดีอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ โดยเฉพาะปลาทูน่าและปลาแซลมอน
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate)
คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate) คือ แหล่งพลังงานที่ดีและร่างกายเราชอบมากที่สุด แต่คาร์บก็มีทั้งคาร์บดีและคาร์บเลว และร่างกายของแต่ละคนก็ตอบสนองต่อคาร์บไม่เหมือนกันด้วยนะครับ
ยกตัวอย่างง่ายๆ น้ำตาลและข้าวโอ๊ต เป็นคาร์บเหมือนกันเด๊ะเลย แต่น้ำตาลจะเข้าไปในร่างกายและเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเราต้องสร้างอินซูลิน (Insulin) ขึ้นมาเยอะๆเพื่อนำน้ำตาลนี้ออกไปจากกระแสเลือด
ในขณะที่ข้าวโอ๊ตจะไม่ทำให้ระดับอินซูลินสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว (Insulin Spike) เพราะเป็นคาร์บเชิงซ้อนที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยและดูดซึม ทำให้เราอิ่มท้องนาน และการขับถ่ายก็จะดีขึ้น อาการท้องผูกก็จะน้อยลง เพราะคาร์บดีจะมีเส้นใยอาหารสูง
ดังนั้น เราไม่ต้องกลัวคาร์บครับ แต่เราควรฉลาดที่จะเลือกว่าควรกินคาร์บแบบไหน เช่น เลือกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ แทนข้าวขาว หรือข้าวเหนียว เป็นต้น
คาร์บเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นเป็นพลังงานที่เรียกว่า “กลูโคส (Glucose)” ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานแรกที่ร่างกายจะดึงมาใช้ ยิ่งเราต้องใช้ร่างกายมากเท่าไหร่ (ออกกำลังกายเยอะ) ร่างกายก็จะยิ่งต้องการกลูโคสมากขึ้นเท่านั้น
การเลือกสารแหล่งคาร์บเชิงซ้อนที่มีประโยชน์และรู้จักปรับปริมาณให้พอดีกับความต้องการ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกันครับ
คาร์บจะมีความพิเศษมากกว่าโปรตีนและไขมัน เพราะร่างกายเราจะกักตุนคาร์บในร่างกายได้น้อยมาก ส่วนใหญ่ก็จะมีในรูปแบบของไกลโคเจน (Glycogen) ที่จะมีในมวลกล้ามเนื้อและตับเป็นส่วนใหญ่
ทำไมถึงต้องกินคาร์บด้วย?
- คาร์บเป็นแหล่งพลังงานที่ดี ซึ่งมีทั้งในรูปแบบของน้ำตาลและสตาร์ช (Starch)
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี แต่ก็ควรเลือกชนิดที่มีเส้นใยสูงๆ เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ และควินัว เป็นต้น
- เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น ผักและผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยวิตามินเอ (Vitamin A) หรือเบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) กรดโฟลิก (Folic Acid) วิตามินซี (Vitamin C) ธาตุเหล็ก (Iron) และโพแทสเซียม (Potassium) เป็นต้น
- คาร์บมีไขมันต่ำ จึงเหมาะกับการควบคุมสัดส่วนของไขมันและคาร์บให้พอดี
ถ้าเราไม่อยากอ้วน อยากหุ่นเฟิร์ม และอยากสุขภาพดี เราต้องเริ่มกินคาร์บดีแทนคาร์บเลว อาหารที่แนะนำ มีดังนี้ครับ
- สตาร์ชหรือคาร์บเชิงซ้อน: มันเทศ พาสต้า ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท
- คาร์บที่มีไฟเบอร์สูง: พืชตระกูลถั่ว ผักทุกชนิด เมล็ดเจีย
- น้ำตาลหรือคาร์บเชิงเดี่ยว: น้ำผลไม้ ผลไม้ นมวัว/นมแต่งรสชาติ แยม น้ำตาล ไซรัป
อาหารลดไขมัน อาหารลดความอ้วน สรุปเป็นตารางได้ดังนี้ครับ
โปรตีน (Protein) | คาร์บ (Carbs) | ผัก (Veggies) |
---|---|---|
อกไก่ | มันฝรั่งอบ | บร็อคโคลี |
อกไก่งวงบด | มันเทศปิ้ง/อบ | หน่อไม้ฝรั่ง |
ปลาแซลมอน | ข้าวกล้อง | แครอท |
ปลาทูน่า | ควินัว | ถั่วเขียว |
ปู | ข้าวโอ๊ต | เห็ด |
กุ้ง | ถั่วชนิดต่างๆ | มะเขือเทศ |
สเต็ก (Sirloin) | สตรอวเบอร์รี่ | ผักกาดขาว |
ไข่ขาว | แอปเปิ้ล | หัวหอม/กระเทียม |
เวย์โปรตีน | โยเกิร์ต | คะน้า |
เต้าหู้ | ขนมปังโฮลวีท | ผักโขม |
จำไว้เลยครับว่า แต่ละมื้อควรจะมี
- โปรตีนประมาณ 1-2 ฝ่ามือ (เท่ากับความกว้างและความหนาของฝ่ามือเรา)
- ผักประมาณ 1 กำมือ (เท่ากับกำปั้นของเรา)
- คาร์บ ประมาณ 1-2 อุ้งมือ (ให้ทำมือเหมือนกำลังกำลูกเทนนิสไว้ นั่นคือ 1 อุ้งมือครับ)
- ไขมันเท่ากับ 1 นิ้วโป้ง (เท่ากับความยาวของ 1 นิ้วโป้ง)
ผมแนะนำให้เริ่มกินแบบตัวอย่างด้านบนประมาณ 50% ก่อน เช่น ถ้าภายใน 3 วัน เรากินอาหาร 3 มื้อ (วันละ 3 มื้อ) พยายามกินให้ได้ประมาณ 4-5 มื้อ และที่เหลือก็อาจจะเป็น Cheat Meals และพยายามพัมนาขึ้นเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 7-8 มื้อ หรือประมาณ 80-90% ครับ
วันหนึ่งควรดื่มน้ำกี่ลิตรต่อวัน?
รู้ไหมครับว่ากล้ามเนื้อเราประกอบไปด้วย 70% และน้ำยังมีส่วนสำคัญในการลำเลียงสารอาหารต่างๆไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย
ถ้าเราดื่มน้ำน้อยเกินไปการลำเลียงสารอาหารก็จะติดขัด ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม และการออกกำลังกาย เพราะเราจะไม่มีแรง รู้สึกเชื่องช้า เฉื่อยๆ
นอกจากน้ำจะช่วงลำเลียงสารอาหารเข้าสู่ร่างกายแล้ว น้ำยังช่วยให้ร่างกายเรากำจัดของเสียออกไปอีกด้วย เช่น ขับของเสียออกทางปัสสาวะ
พยายามดื่มน้ำทั้งก่อน ระหว่าง และหลังมื้ออาหาร จิบน้ำระหว่างออกกำลังกาย ประเด็น คือ ดื่มน้ำให้เป็นนิสัยและห้ามปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาดครับ
นี่คือหลักการกินอาหารเพื่อลดไขมัน และในบทความต่อไปผมจะพาทุกคนไปดูการออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน เพราะเราต้องทำให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลและปลอดภัยครับ