ทุเรียน กินแล้วอ้วนไหม & มีประโยชน์อะไรบ้าง?
สวัสดีครับ โค้ชเค Fitterminal.com
ถึงหน้าทุเรียนทีไร เพื่อนๆก็อาจจะเคยสงสัยนะครับว่า ถ้าเราอยากจะลดน้ำหนัก & ลดไขมัน เราจะกินทุเรียนได้หรือเปล่า กินไปแล้วแคลอรี่จะเยอะจนทำให้อ้วนไหม ถ้าจะกินจริงๆเราจะกินได้เท่าไหร่ และทุเรียนมีประโยชน์เด่นๆอะไรบ้าง?
วันนี้ ผมโค้ชเค เลยจะมาแนะนำประโยชน์เด่นๆของทุเรียนที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน และปริมาณที่แนะนำด้วย ตามมาเลยครับ
ทุเรียนกินแล้วอ้วนไหม & มีประโยชน์อะไรบ้าง?
ทุเรียน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์สูงมาก และอาจจะสูงกว่าผลไม้หลายชนิดด้วย
แต่เพื่อนๆหลายคน อาจจะกลัวหรือเลี่ยงที่จะกินทุเรียน เพราะกลัวว่ามันจะมีแคลอรี่เยอะเกิน จนทำให้เราอ้วนขึ้น
เรามาดูกันก่อนดีกว่าครับว่า ทุเรียนมีสารอาหารที่มีประโยชน์เด่นๆ อะไรบ้าง
โดยทั่วไปนะครับ ทุเรียน 1 พู (1-2 เม็ด) ในปริมาณ 243 กรัม จะให้พลังงานและสารอาหาร ดังนี้ครับ
- พลังงาน: 357 แคลอรี่
- ไขมัน: 13 กรัม
- โปรตีน: 4 กรัม
- คาร์โบไฮเดรท: 66 กรัม
- เส้นใยอาหาร: 9 กรัม
- วิตามินซี: 80% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 1 (Thiamine): 61% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 3 (Niacin): 13% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 6: 38% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 2 (Riboflavin): 29% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- แมงกานีส (Manganese): 39% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- โพแทสเซียม (Potassium): 30% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ทองแดง (Copper): 25% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- กรดโฟลิก (Folic Acid/Folate): 22% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- แมกนีเซียม (Magnesium): 18% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
งานวิจัยหลายชิ้นยังพบด้วยว่า ทุเรียนมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมหลายอย่าง เช่น ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และยังอาจจะช่วยลดความดันโลหิตได้ดีอีกด้วย (1)
1. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
เพราะทุเรียนอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่จะเข้าไปช่วยกำจัด อนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่เป็นต้นเหตุของก้อนเนื้อร้าย
เช่น ทุเรียนอาจจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นต้น
2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
สารอาหารที่มีประโยชน์ที่ได้จากการกินทุเรียน จะเข้าไปช่วยลดระดับของ คอเลสเตอรอลเลว (Low Density Lipoprotein) และลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
ประเด็น คือ โรคเส้นเลือดแดงแข็งจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ และอันตรายมากๆ เพราะจะทำให้เลือดและออกซิเจน ไม่สามารผ่านไปยังเซลล์ต่างๆในร่างกายได้นั่นเอง
3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับ ดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index หรือ GI) ก่อน
ประเด็น คือ ยิ่งอาหารที่เรากินอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงเท่าไหร่ ร่างกายก็จะดูดซึมอาหารได้เร็วขึ้นเท่านั้น และระดับน้ำตาลในเลือกก็จะพุ่งสูงขึ้นตามมาด้วย
ในทางตรงกันข้าม อาหารที่มีค่า GI ต่ำๆ จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือฮอร์โมนอินซูลินก็จะค่อยๆหลั่งออกมาเพื่อมาจัดการกับน้ำตาลในกระแสเลือด
ซึ่งนี่จะช่วยลดความเสี่ยงภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) และความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานในที่สุดอีกด้วยครับ
ยกตัวอย่างเช่น ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลจากน้ำอัดลมได้เร็วกว่า น้ำตาลจากกล้วย เพราะน้ำอัดลมมีค่าดัชนีน้ำตาลที่สูงกว่า เป็นต้น
ทีนี้ ทุเรียนจะถือว่าเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (ต่ำกว่าผลไม้หลายชนิดในบ้านเรา)
ดังนั้น ทุเรียนจะมีส่วนช่วยทำให้ระดับน้ำตาลไม่พุ่งสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว (Sugar Spike)
ทุเรียน ถ้ากินพร้อมแอลกอฮอล์ เหล้า & เบียร์ อันตรายหรือเปล่า?
เพื่อนๆอาจจะเคยได้ยินข่าวมาตลอดว่า ถ้าเรากินทุเรียนพร้อมเหล้าหรือเบียร์ มันอาจจะทำให้เราเสียชีวิตได้
จริงๆแล้ว จากการศึกษาพบว่า ทุเรียนกับแอลกอฮอล์อาจจะมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้จริง (2)
นั่นเป็นเพราะทุเรียนจะมีกรดกำมะถัน (Sulphur) ที่อาจจะไปยับยั้งการหลั่งเอนไซม์ (Enzymes) ที่จะมากำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายเรา
พอระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดมีเยอะหรือสูงเกินไป มันก็อาจจะถึงขั้นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ซึ่งอาการเบื้องต้นจากการกินทุเรียนพร้อมกับแอลกอฮอล์ ก็อาจจะมีเวียนหัว อาเจียน และใจสั่น เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย เราควรกินทุเรียนหลังอาหารเท่านั้น และควรเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ไปก่อนดีกว่าครับ
ทำไมทุเรียนถึงมีกลิ่นเหม็นแรง?
สาเหตุที่ทุเรียนมีกลิ่นเหม็น (สำหรับบางคน) เพราะว่า ทุเรียนจะมีพฤกษเคมีประมาณ 44 ชนิด ที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะ (3)
ทุเรียนกินแล้วอ้วนไหม?
เพื่อนๆจะเห็นว่า ทุเรียนมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย และยังเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลที่ต่ำอีกด้วย
แต่ถ้าในช่วงที่เราควบคุมน้ำหนัก เราก็อาจจะต้องกะปริมาณให้พอดี เพื่อที่ร่างกายจะได้ไม่รับพลังงานแคลอรี่เข้าไปเยอะเกินกว่าที่เผาผลาญออก
เพราะปริมาณแค่ 1 พู ก็ถือว่าให้พลังงานแคลอรี่เยอะเหมือนกัน (ประมาณ 350 แคลอรี่)
ซึ่งโดยทั่วไปผู้หญิงจะมีความต้องการพลังงานแค่วันละ 1,500-2,000 แคลอรี่ และการกินทุเรียนแค่ 2 พู ก็อาจจะทำให้เราได้รับพลังงานแคลอรี่ต่อวันเยอะเกินไปจนอ้วนขึ้นได้นั่นเองครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
เพื่อนๆจะเห็นว่า ทุเรียนเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีประโยชน์หลายอย่าง และเราสามารถกินได้ในช่วงที่เราลดน้ำหนัก และลดไขมันด้วย
ประเด็น คือ เราควรกะปริมาณให้พอดี ต่อปริมาณพลังงานแคลอรี่ที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน และเพื่อการดูดซึมที่ดี เราอาจจะกินหลังอาหารเป็นของหวาน ภายใน 30 นาทีก็ดีเหมือนกันครับ
ถ้ายังมีคำถาม หรือคำแนะนำดีๆ คอมเมนต์หรือว่ามาแชร์ประสบการณ์ได้เลยที่ด้านล่าง
และถ้าตอนนี้เพื่อนๆไม่อยากเสียเวลาไปกับการลดไขมัน และการออกกำลังกายที่ผิดวิธี และอยากจะมีหุ่นในฝันให้ตัวเองภูมิใจ ภายใน 3-6 เดือนนี้
แอดไลน์มาตาม Link ด้านล่าง มาสอบถาม และพูดคุยกันก่อน และถ้าเคมีเราตรงกัน ผมก็มีคอร์สออนไลน์ที่ออกแบบมาสำหรับเพื่อนๆโดยเฉพาะ
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร | YouTube | Facebook | Instagram | LINE