5 อาหารเสริม ที่ช่วยลดไขมันหน้าท้องได้
อาหารเสริม ที่จะช่วยลดไขมันหน้าท้องมีมากมายหลายชนิดและยี่ห้อ แต่ปัญหาคือบางตัวก็ได้ผล บางตัวก็ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย รู้ไหมครับว่าธุรกิจของผลิตภัณฑ์ลดไขมัน ปีๆหนึ่งทำเงินได้ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
คนไทยมากว่า 15% ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างพยายามมองหาอาหารเสริมที่จะมาช่วยลดไขมันตลอดเวลา สำหรับคนที่อยากจะลองหาซื้อมากินดูบ้าง ผมอยากเตือนไว้ก่อนว่า สินค้าบางตัวไม่ได้ผลเลย ผมว่านี่แหละคือปัญหา ผมจึงอยากจะเขียนบทความนี้เพื่อรีวิวอาหารเสริมลดไขมัน ว่าตัวไหนบ้างที่กินแล้วได้ผล มีงานวิจัยรองรับ จุดประสงค์ของผมคืออยากให้ทุกคนถึงเป้าหมายในการลดไขมันได้เร็วขึ้น และประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย
อาหารเสริม เพื่อลดไขมันหน้าท้อง
ถ้าใครกำลังมองหาอาหารเสริมเพื่อมาช่วยในการเบิร์นไขมันหน้าท้องให้หุ่นเหมือนนางแบบนิตยสาร อาหารเสริม 5 ชนิดที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้อาจจะช่วยคุณได้ เรามาดูกันเลยครับ
เหล็ก
“เหล็ก” นี่แหละครับ คือสิ่งแรกและสิ่งเดียวที่เราต้องให้ความสำคัญ แต่เหล็กที่ผมกำลังพูดถึงอยู่ไม่ใช่ “ธาตุเหล็ก” นะครับ แต่ผมกำลังพูดถึงแผ่นเหล็กหรือดัมเบลที่เราต้องยกขึ้นยกลงต่างหาก
การออกกำลังกายแบบออกแรงดันจะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อจะเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ ซึ่งก็มีผลโดยตรงต่อปริมาณไขมันในร่างกายที่น้อยลงเรื่อยๆครับ
ผมใช้เวลากว่า 3 ปีในการศึกษาเกี่ยวกับ เวท เทรนนิ่ง และทุกงานวิจัยจะสรุปตรงกันว่า เวท เทรนนิ่ง คือวิธีที่ดีที่สุดในการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
การออกกำลังกายแบบเวท เทรนนิ่ง แค่ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ จะช่วยให้เราเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เร็วขึ้นถึง 50% ลองคิดดูสิครับ ถ้าเราออกกำลังกายแบบนี้ 3-4 ครั้ง เราจะเบิร์นไขมันได้เร็วขึ้นแค่ไหน!
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะไปถึงอาหารเสริมตัวที่ 2 เตรียมตัวและใจให้พร้อมเพื่อที่จะเสริม “เหล็ก” ในโปรแกรมลดไขมันด้วยนะครับ
คาเฟอีน (Caffeine)
ถ้าใครเคยอ่านเรื่องคาเฟอีน จะพบว่าอาหารเสริมตัวนี้มีการศึกษามากที่สุด เพราะอะไรหละ? อย่างแรกเลยคือ เครื่องดื่มชาและกาแฟเป็นที่นิยมไปทั่วโลก จึงมีการศึกษาข้อดีและข้อเสียของคาเฟอีนอย่างกว้างขวาง
ข่าวดีคือมีงานวิจัยอ้างอิงว่า คาเฟอีน สามารถช่วยให้เราเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เร็วและมากขึ้นด้วย แต่อย่าเพิ่งดีใจจนออกนอกหน้า เราต้องมาดูข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับคาอีนกันก่อน
- คาเฟอีน ช่วยเบิร์นไขมันได้จริง แต่เปอร์เซ็นต์ยังน้อยอยู่ (แค่ 25%) เพราะ 75% ของกรดไขมันที่ถูกปล่อยออกมาจากเซลล์ไขมัน จะถูกนำกลับไปเก็บไว้เหมือนเดิม
- ถ้าเราไม่ดูแลเรื่องสารอาหารและปริมาณแคลอรี่ที่กินต่อวัน คาเฟอีน ก็ไม่สามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักหรือเบิร์นไขมันได้
- ร่างกายเราสามารถปรับตัวและดื้อต่อคาเฟอีนได้ เพราะฉะนั้นเราต้องหยุดกินซักระยะ หรือปรับเปลี่ยนปริมาณขึ้นลงตามความเหมาะสมด้วย
- คาเฟอีนอาจจะกระตุ้นให้เกิด ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) ได้
ผมว่าทุกอย่างในชีวิตเราก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน คาเฟอีนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนกัน ดังนั้นปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายได้รับต่อวัน ไม่ควรเยอะเกินไป ปริมาณที่นักกำหนดอาหารส่วนใหญ่แนะนำคือ 400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับกาแฟประมาณ 4 แก้วครับ
งานวิจัยส่วนใหญ่ที่ผมได้ศึกษามาบอกว่า คาเฟอีนจะช่วยเบิร์นไขมันได้ดีในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น นานๆไปร่างกายเราจะปรับตัวได้ ถึงแม้ว่าคุณสมบัติในการเบิร์นไขมันจะลดลง แต่คาเฟอีนยังคงช่วยให้เราตื่นตัวได้อยู่เหมือนเดิมนะครับ
ชาเขียวสกัด
บอกตามตรงเลยว่าช่วงแรกๆ ผมไม่เชื่อเลยว่าชาเขียวสามารถช่วยให้ร่างกายเราเบิร์นไขมันได้มากขึ้น แต่ตอนหลังมีงานวิจัยที่ศึกษาประโยชน์ของชาเขียวอย่างจริงจัง ที่เด่นๆคือ งานวิจัยที่ทำขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า ชาเขียวมีสารที่เรียกว่า “Catechin” ซึ่งสารตัวนี้มีส่วนช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกาย (Metabolism) ทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายเราจึงเผาผลาญไขมันได้เยอะและเร็วขึ้นกว่าปกติ
ทีนี้ประเด็นคือ ใครจะดื่มชาเขียวได้วันละหลายๆแก้วใช่ไหมครับ? ดังนั้นการกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของชาเขียวและคาเฟอีน จึงเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด และตอนนี้อาหารเสริมชาเขียวมีให้เลือกหลายยี่ห้อ และบางยี่ห้อก็ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเลย (น้อยกว่า 2%) คุณแม่หลังคลอดหรือคนที่แพ้คาเฟอีนก็กินได้และเบิร์นไขมันได้เหมือนกัน
โยฮิมบี (Yohimbe)
ดูจากชื่อหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นดาราเกาหลี แต่ไม่ใช่ครับ โยฮิมบี คือสมุนไพรชนิดหนึ่ง ช่วงแรกๆอาหารเสริมตัวนี้มีชื่อเสียงเพราะสามารถช่วยรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ และตอนหลังมีงานวิจัยที่พบว่า โยฮิมบีมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้เยอะขึ้น
งานวิจัยได้ทำการทดลองและพบว่า นักฟุตบอลที่เข้าร่วมการทดลองสามารถลดไขมันได้เพิ่มขึ้นถึง 2% แต่นักวิจัยทิ้งท้ายด้วยว่า โยฮิมบีอาจจะมีฤทธิ์ต้านยาที่เรากินอยู่ประจำ และถ้ากินในปริมาณที่สูง (Overdose) ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจจะเพิ่มขึ้นทันที
สรุปคือ อาหารเสริมตัวนี้มีงานวิจัยอ้างอิงว่าช่วยลดไขมันส่วนเกินได้จริง แต่เราก็ต้องใช้แบบระวังด้วย ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
Synephrine
ผลไม้ตระกูลส้มจะมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Synephrine หรือ P-Synephrine ซึ่งจะออกฤทธิ์คล้ายๆกับ Ephinephrine หรือ อะดรีนาลีน (Adrenaline) ที่กระตุ้นให้เรายกโอ่งทั้งใบได้ตอนไฟไหม้ไงหละครับ สาร Synephrine สามารถกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ปริมาณไขมันถูกเผาผลาญออกไปมากขึ้นนั่นเอง
สรุป
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักและเบิร์นไขมันนั้นมีเยอะมากในตลาด ยังไงก็แล้วแต่ “เหล็ก” คืออาหารเสริมหรือการออกกำลังกายอย่างแรกที่เราต้องให้ความสำคัญ รองลงมาคือสารอาหารหลัก (Macronutrients) และปริมาณแคลอรี่ที่เราต้องกินไม่ให้เกินกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน (Total Daily Energy Expenditure)
คาเฟอีนเม็ดและชาเขียวสกัด ควรเป็นแค่ตัวช่วยให้เราเบิร์นไขมันได้มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะคาเฟอีนนั้น เราควรใช้เพื่อเบิร์นไขมันในระยะเวลาสั้นๆพอ เพราะนานไปร่างกายเราจะสามารถปรับตัวได้ คุณสมบัติในการเบิร์นไขมันจึงจะค่อยๆลดลง
ถ้าคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ รบกวนฝากกดปุ่ม Share ด้านล่างเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ