วิตามินดี (Vitamin D) สำหรับคุณแม่หลังคลอด
วิตามินดี (Vitamin D) หลักๆจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้มากขึ้น จึงมีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรง แต่ที่จริงมันมีประโยชน์มากกว่านั้นครับ
ในบทความนี้ ผมโค้ชเค จะมาอธิบายว่า วิตามินดีสำคัญกับสุขภาพคุณแม่หลังคลอดอย่างไร ตามมาเลยครับ
วิตามินดี (Vitamin D) สำคัญอย่างไร?
วิตามินดี (Vitamin D) คือ กลุ่มสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยทั่วไป ร่างกายเราจะได้รับวิตามินดีจากอาหาร จำพวก ปลาแซลมอน ผลิตภัณฑ์นม เห็ดปลูกในแดด และอาหารเช้าซีเรียล เป็นต้น
รู้ไหมครับว่า ร่างกายเราก็สามารถสร้างวิตามินดีจากแสงแดดได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่กับการที่ต้องเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังและผิวไหม้
ประโยชน์หลักๆของวิตามินดี คือ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุแคลเซียม และฟอสฟอรัส ได้มากขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพกระดูก
อีกทั้งงานวิจัยยังพบว่า ผู้หญิงที่น้ำหนักเกินส่วนใหญ่จะมีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำ และพอให้กินวิตามินดีทุกวัน ผู้หญิงกลุ่มเดียวกันสามารถลดน้ำหนักได้มากขึ้น เหตุผลคือ วิตามินดีมีส่วนช่วยเร่งให้ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ทำงานมากขึ้นนั่นเองครับ
วิตามินดีควรกินวันละเท่าไหร่?
ปริมาณที่แนะนำจะอยู่ที่ 10 ไมโครกรัม (หนึ่งในล้านของกรัม) หรือ 400 IU (International Unit: หน่วยวัดมาตรฐานสากล)
ปกติแล้ว คุณแม่สามารถกินวิตามินดีพร้อมกับ กรดโฟลิก (Folic Acid) และวิตามินซี พร้อมกันได้เลย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเริ่มกินอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะครับ
ใครที่งดกินเนื้อสัตว์ เช่น วีแกน (Vegan) ควรอ่านฉลากและดูส่วนผสมให้ดีก่อน เพราะวิตามินดีส่วนใหญ่จะสกัดมาจากสัตว์ เช่น ตับปลาค็อท และน้ำมันปลาเป็นต้น
อาหารจากพืชที่มีวิตามินดี คือ อาหารเช้าซีเรียล (ที่เติมวิตามินดีเข้าไป) ผลิตภัณฑ์นม เช่น นมอัลมอนด์ และเห็ดที่ปลูกในแดด เป็นต้นครับ
ข้อควรระวัง
วิตามินดีเป็นวิตามินชนิดละลายในไขมัน นั่นหมายความว่า ร่างกายเราจะกักตุนวิตามินชนิดนี้ไว้นานกว่า วิตามินชนิดละลายในน้ำ (วิตามินบี และ วิตามินซี)
ปกติแล้ว เด็กจะได้รับสารอาหารจากน้ำนมแม่ ซึ่งวิตามินดีก็จะผ่านไปทางน้ำนมด้วยเหมือนกัน ดังนั้น คุณแม่คนไหนที่กำลังกินอาหารเสริมวิตามินดีอยู่ อ่านฉลากข้างกล่องและดูปริมาณที่แนะนำให้ดี ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยอะไร ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
คำแนะนำจากโค้ชเค
อาหารเสริม ยังไงก็ต้องกินเพื่อเสริมส่วนที่ขาดครับ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแม่ทำได้ คือ พยายามดูแลเรื่องอาหารให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้ครบทุกตัวก่อน
โดยปกติแล้วคุณแม่ที่สุขภาพดีอยู่แล้ว จะไม่ต้องการอาหารเสริมเลย เว้นแต่ว่าจะเตรียมตัวท้องคนที่ 2 ซึ่งควรหาซื้อกรดโฟลิกมากินเพื่อบำรุงร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งครับ
แคลเซี่ยม (Calcium)
คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมลูกควรได้รับแคลเซี่ยมจากอาหารให้เพียงพอ ถ้าคุณแม่คนไหนดื่มนม กินชีส หรือกรีกโยเกิร์ตเป็นประจำอยู่แล้ว จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขาดแคลเซี่ยมเลย
แต่ถ้าคุณแม่คนไหนไม่ชอบกินอาหารจำพวก นมวัว หรือ อาหารทะเล ควรซื้ออาหารเสริมแคลเซียม หรือกินอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซี่ยมทุกวัน เช่น ส้ม มะเล็ดงา คะน้า บรอกโคลี นมถั่วเหลือง และปลาแซลมอน เป็นต้น
น้ำเปล่า (Water)
ช่วงที่ให้นมลูก คุณแม่อาจจะกระหายน้ำบ่อยขึ้น เพราะน้ำนมก็มาจากน้ำในร่างกายด้วยส่วนหนึ่ง
โดยปกติแล้วผมจะแนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แต่ถ้าไม่อยากคอยจำ เอาความกระหายเป็นหลักก็ได้ครับ
ควรพกน้ำไว้ใกล้ตัวตลอดเวลาจะดีที่สุด เพราะเวลากระหายจะได้หยิบดื่มได้เลยทันที แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่า การดื่มน้ำเยอะๆไม่ได้ช่วยให้น้ำนมเยอะขึ้น การให้นมลูกเป็นประจำและทานอาหารที่มีประโยชน์คือตัวช่วยเพิ่มน้ำนมที่ดีที่สุด