5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนักหลังคลอด
คุณแม่ส่วนใหญ่ พอเริ่มปรับตัวกับการเป็นแม่ได้แล้ว ก็อยากจะมาฟิตเเอนด์เฟิร์มหุ่นให้กลับมาเหมือนเดิม
แต่ความเชื่อผิดๆ หรือคำแนะนำที่ไม่จริงก็มีเยอะมาก จนอาจจะทำให้คุณแม่ๆสับสน ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน และบางคนก็อาจจะไปเสียเงินและเสียเวลากับวิธีที่ไม่ถูกต้องด้วย
ผมโค้ชเค เข้าใจครับ เพราะวิธีลดน้ำหนักมีเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น
- การงดข้าวเย็น (Skipping Meals)
- การกินไขมันเพื่อลดไขมัน (Ketogenic Diet)
- จำกัดเวลากิน หรือ Intermittent Fasting (IF)
แล้วแบบไหนเหมาะกับเราและได้ผลที่สุดหละ?ห
ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก
ในบทความนี้ ผมจะไม่ได้มาพูดถึงวิธีลดน้ำหนักต่างๆ แต่จะมาพูดถึงความเชื่อผิดๆ ที่ไม่อยากให้ใครไปเสียเวลากับมัน
และนี่คือ 5 ความเชื่อผิดๆที่ควรเลี่ยงครับ
ลดความอ้วนต้องอดอาหาร
เคยได้ยินใช่ไหมครับว่า อยากผอมก็ต้องกินน้อยๆ? การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ไม่ต้องอดอาหารเลยครับ
หากคุณต้องการลดน้ำหนัก ก็ต้องให้ร่างกายได้ใช้พลังงานหรือได้เผาผลาญพลังงานให้มากกว่าพลังงานจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปต่างหาก
ดังนั้น การลดน้ำหนักให้ได้ผล จึงต้องมีการควบคุมปริมาณแคลอรี่จากการรับประทานอาหาร และเราต้องรู้ด้วยว่า ร่างกายเราใช้พลังงานกี่แคลอรี่ต่อวัน
ซึ่งทำได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่ให้ สารอาหารหลัก (Macronutrients) ครบถ้วน นั่นคือ
- โปรตีน (Protein)
- คาร์บ หรือ แป้ง (Carbs)
- ไขมัน (Healthy Fat)
ทานอาหารให้ได้พลังงานแคลอรีน้อยลง ทานอาหารที่ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้นหรือมีประโยชน์มากขึ้น เช่นอาหารให้ไฟเบอร์ และโปรตีนสูงๆ เช่น พืชตระกูลถั่ว บร็อคโคลี่ เนื้อสัตว์ เป็นต้นครับ
สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่กำลังให้นมลูกอยู่ ยิ่งไม่ควรอดอาหารเลยนะครับ
แต่ในทางกลับกันคุณแม่ที่น้ำหนักไม่เกินมาตรฐานซึ่งยึดได้ตามค่า BMI (Body Mass Index) (คำนวณ ค่า BMI) ควรกินเพิ่ม 300-500 แคลอรี่ต่อวันเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีน้ำนมเพียงพอให้กับเจ้าตัวเล็กอีกคนหนึ่งด้วยครับ
ช่วงไดเอท ทานอาหารเฉพาะเวลาหิว
แก้ไขความเชื่อนี้ด่วน เพราะหากนั่งรอจนหิวแล้วค่อยทานอาหาร… จะยิ่งเพิ่มน้ำหนักครับ
นั่นก็เพราะเมื่อรู้สึกหิว ร่างกายจะหลั่งสารคอติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นสารก่อความเครียด กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น อยากกินอาหารเยอะขึ้น
โดยเฉพาะอาหารกลุ่มที่มีน้ำตาลและไขมันสูงครับ
ทีนี้ล่ะ ปล่อยตัวเองจนหิวมากแล้วค่อยทานเมื่อไร แทนที่คุณจะได้เลือกรับประทานอาหารดีๆมีประโยชน์ ก็อาจจะหน้ามืดตาลายกลายเป็นจัดหนักแป้งและน้ำตาลที่ทำให้อ้วนขึ้นกว่าเดิม
สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือ ทานอาหารให้เป็นเวลา โดยเฉพาะอาหารเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญมากๆ
พยายามให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ตั้งแต่ตื่นนอนเลย ไม่ว่าจะเป็น
- นม
- ซีเรียลแบบ whole wheat
- ใข่
ที่สำคัญกว่านั้นคือควบคุมพลังงานแคลอรี่ไม่ให้เกินกว่าที่ร่างกายเผาผลาญต่อวัน
เลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหาร โปรตีน แป้ง และไขมัน ให้สมดุลย์ครับ
เนื้อสัตว์ โปรตีน ไม่ทำให้อ้วน
หลายคนคงเคยได้ยิน หรือเข้าใจว่า จะทานบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง หมูย่าง เนื้อย่าง มากแค่ไหนก็ไม่อ้วน
เพราะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ทำให้อ้วน… อ๊ะๆ เข้าใจผิดอย่างแรงเลยนะครับ
เพราะรู้หรือไม่ เมื่อร่างกายใช้พลังงานแคลอรี่ที่เรากินเข้าไปไม่หมด ต่อให้เป็นโปรตีน ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน พอสะสมขึ้นเยอะๆก็จะทำให้เราอ้วน พุงย้วยเลย
นอกจากนี้เนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ส่วนที่เป็นสันใน หรืออก ยังมักมีชั้นไขมันแทรกอยู่มาก
ซึ่งไขมันจากเนื้อสัตว์จะให้พลังงานแคลอรี่เยอะมากครับ การรับประทานเข้าไปเป็นจำนวนมากก็เป็นสาเหตุของแคลอรีที่เกินได้ และทำให้อ้วนได้เช่นกัน
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่ให้เลี่ยงเนื้อสัตว์ไปโดยปริยาย แต่เราควรควบคุมพลังงานแคลอรี่ที่เราได้จากเนื้อสัตว์หรือโปรตีนไม่ให้เกินครับ
เน้นผักและผลไม้ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น
การรับประทานผักและผลไม้เพียงอย่างเดียวนั้น ถึงแม้ว่าร่างกายจะได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอ แต่ก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ
นอกจากนี้ผักและผลไม้หลายชนิดยังมีแป้งและน้ำตาลในปริมาณสูงอีกด้วยนะครับ เพราะฉะนั้นจะกินอะไรเข้าไป เราต้องรู้ว่าผักหรือผลไม้ที่เราเตรียมไว้ ให้พลังงานกี่แคลอรี่
เพราะหัวใจของการลดน้ำหนักคือการควบคุมปริมาณแคลอรีที่รับประทาน (ย้ำกันทุกหัวข้อเลย)
ที่สำคัญก็คือการควบคุมแคลอรี่นั้นต้องไม่ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพโดยรวม นั่นคือ โปรตีน แป้ง ไขมัน น้ำ และวิตามิน เกลือแร่ต่างๆ ต้องครบ
สำหรับคุณแม่คนไหนที่กำลังไอเอ็ทแบบมังสวิรัสอยู่ ควรศึกษาให้ดีว่าจะหาแหล่งโปรตีนจากไหนมาทดแทนให้ดี และควรปรึกษาแพทย์เป็นประจำ
บทความแนะนำ: โปรตีนจากพืชและสัตว์ ต่างกันอย่างไร?
งดข้าวเย็น
ที่ Fit Terminal เราเชื่อเลยว่าหลายๆคนเลือกการงดข้าวเย็นเพื่อลดน้ำหนัก ขอย้ำไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับสำคัญที่สุด ส่วนเวลาที่เรากินอาหารไม่มีความสำคัญเลยครับ
ซึ่งแน่นอนการงดข้าวเย็น วิธีนี้คือความเชื่อที่ผิด ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผล 100% ควรลดละเลิกกันด่วนๆ เพราะ หลายๆ วิจัยแสดงให้เห็นแล้วว่าร่างกายเราสามารถย่อยและเก็บอาหารที่ทานเหมือนกันไม่ว่าจะเวลาไหน
โดยสิ่งที่ตัดสินว่าจะอ้วนหรือไม่คือ ปริมาณแคลอรีที่ได้รับ ไม่ใช่เวลาที่รับประทาน ไม่ใช่เวลาที่เราทานอาหาร
นอกจากนี้การงดมื้อเย็น ยังทำให้ร่างกายขาดอาหารเป็นเวลานานเกินไป ทำให้เราหิว ร่างกายหลั่งสารให้เกิดความเครียด ทำให้เราอยากกินอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงอีก
เอาไปเอามาอาจจะกินมากกว่าเดิมอีก ร่างกายมนุษย์เราอยู่ได้ด้วยการสร้างกระบวนการกักเก็บไขมันเพื่อรองรับช่วงเวลาที่เราขาดอาหาร
แต่ถ้าเรากินเกินพลังงานแคลอรี่ที่ร่างกายเผาผลาญ จะทำให้คุณพุงโย้กว่าเดิม ทีนี้ขอให้กินข้าวเย็นให้สบายใจไปเลยครับ
คุณแม่คิดอย่างไรบ้างกับความเชื่อผิดๆเหล่านี้ครับ ตอนนี้ลดน้ำหนักยังไงอยู่บ้าง มีเป้าหมายอะไร และอะไรที่ท้าทายมากที่สุด มาแชร์กันในคอมเมนต์ได้เลยนะครับ
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกด Share ด้วยนะครับ