มัลเบอร์รี่ (ลูกหม่อน) ช่วยเบิร์นไขมันหน้าท้องได้!
มัลเบอร์รี่ หรือลูกหม่อน หลายคนเคยเห็นแต่ไม่รู้ว่าลูกหม่อนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่หลายคนคงคาดไม่ถึงว่า เจ้าผลไม้ลูกเล็กๆนี้ จะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันได้ด้วย
งานวิจัยชิ้นล่าสุดก็ค้นพบว่า มัลเบอร์รี่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์ไขมันสีน้ำตาล (Brown Fat) ซึ่งเจ้าไขมันตัวนี้จะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายเราเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้เร็วและมากขึ้นกว่าเดิม
วันนี้ผมโค้ชเค จะพาทุกคนมารู้จักกับมัลเบอร์รี่ (ลูกหม่อน) กัน ตามมาเลยครับ
มัลเบอร์รี่ มีประโยชน์
ผมเป็นคนอิสาน สมัยก่อนผู้ใหญ่จะปลูกต้นหม่อนเพื่อเอาใบมาเลี้ยงตัวหนอนไหม ส่วนลูกหม่อนพอสุกปุ๊บ พวกเด็กๆอย่างผมก็ปีนขึ้นไปเด็ดกินกัน สนุกสนาน ลูกดำๆจะมีรสชาติหวาน นึกถึงแล้วก็น้ำลายสอเลย
ตอนโน้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แค่ว่าผลไม้นี้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนแยม แต่พอโตขึ้นมาถึงได้รู้ว่า ลูกหม่อนเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็ง และช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่ในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
ทุกวันนี้มัลเบอร์รี่กลายมาเป็นผลไม้เศรษฐกิจ เพราะเทรนด์สุขภาพมาแรง
ผลสรุปจากงานวิจัยชิ้นล่าสุดเผยว่า มัลเบอร์รี่สามารถช่วยลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันหน้าท้องได้ เพราะว่ามัลเบอร์รี่มีส่วนผสมที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันสีน้ำตาล (Brown Fat) เยอะขึ้น
นักวิจัยจากประเทศจีนพบว่า รูติน (Rutin) สารชนิดหนึ่งที่พบในมัลเบอร์รี่ สามารถช่วยให้เราเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยเฉพาะไขมันตรงพุงได้เยอะขึ้น
ตอนนี้องค์การอนามัยโลกได้มีการรณรงค์ให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพ เพราะตอนนี้ผู้ใหญ่ 1 ใน 3 ป่วยเป็นโรคอ้วนกันแล้ว
สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมเนือยนิ่ง (นั่งและนอนเป็นส่วนใหญ่) และการกินอาหารที่มีแคลอรี่สูง เช่น ขนมเค้ก น้ำหวาน และ น้ำอัดลม เยอะเกินไป ผลที่ตามมาคือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองตีบ และท้ายสุดคือ โรคมะเร็ง
จะลดน้ำหนักและเบิร์นไขมันหน้าท้องให้ได้ผล ใครๆก็รู้ว่าต้องควบคุมพลังงานแคลอรี่ไม่ให้เกินกว่าที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน และเพิ่มการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงด้วย
มัลเบอร์รี่และสารอาหาร
นี่คือข้อมูลทางโภชนารของมัลเบอร์รี่ ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน: 43 แคลอรี่ (กินไป 1 กิโล ก็ยังมีแคลอรี่น้อยกว่าเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น)
- โปรตีน: 1.44 กรัม
- คาร์โบไฮเดรท: 9.8 กรัม
- ไขมัน: 0.39 กรัม
- เส้นใยอาหาร: 1.7 กรัม
- วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ที่เด่นคือ วิตามินซี มีถึง 36.4 มิลลิกรัม หรือ 44% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน)
มัลเบอร์รี่ มีสารรูติน (Rutin) ที่ช่วยเพิ่มเซลล์ไขมันสีน้ำตาล
งานวิจัยชิ้นนี้ ทำการทดลองโดยแบ่งหนูออกเป็น 2 กลุ่ม หนูกลุ่มที่ 1 เป็นหนูที่อ้วนมาแต่กำเนิด (เพราะมีการตัดต่อทางพันธุ์กรรม) ส่วนหนูกลุ่มที่ 2 คือหนูที่เป็นโรคอ้วน ตลอดระยะเวลาของการทดลอง หนูทั้งสองกลุ่มจะกินน้ำที่มีส่วนผสมของ รูติน (Rutin) ในอัตราส่วน รูติน 1 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1 มิลลิลิตร
ผลสรุปจากงานวิจัยพบว่า รูตินช่วยกระตุ้นให้หนูทั้ง 2 กลุ่มผลิตเซลล์ไขมันสีน้ำตาล (Brown Adipose Tissue) ซึ่งไขมันนี้ส่งผลให้หนูเผาผลาญพลังงานแคลอรี่เยอะขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดก็คงที่ (Glucose Homeostasis) และหนูสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้เยอะกว่า
เขายังพบอีกว่า รูตินมีส่วนช่วยสร้างไขมันสีน้ำตาลใต้ผิวหนังอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีกับคนที่ต้องการลดไขมันที่บริเวณนี้ นักวิจัยให้ความเห็นด้วยว่า รูตินจะเป็นตัวช่วยให้คนลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันได้ผลเร็วขึ้น
ฝากไว้…ก่อนไป
การที่จะลดน้ำหนักและเผาผลาญไขมันหน้าท้องออกให้หมด 80% ขึ้นอยู่กับการดูแลเรื่องอาหาร ที่เหลืออีก 20% คือการออกกำลังกาย
การเน้นกินผักและผลไม้ในช่วงลดน้ำหนัก นอกจากเราจะได้ประโยชน์จากสารอาหารแล้ว ยังทำให้เราอิ่มท้องนานขึ้นด้วย และผลไม้พื้นบ้านอย่างมัลเบอร์รี่หรือลูกหม่อน ยังมีส่วนผสมที่ช่วยให้เราเบิร์นไขมันส่วนเกินได้เยอะและเร็วขึ้นอีก
ถึงแม้ว่ามัลเบอร์รี่จะมีประโยชน์มากมาย แต่เราก็อย่ามองข้ามความสมดุลย์ของสารอาหาร (โปรตีน คาร์โบไฮเดรท และไขมัน) ต้องให้แน่ใจว่าเราทานอาหารให้ครบทุกกลุ่ม แล้วค่อยมาเน้นกินมัลเบอร์รี่เสริมเพื่อกำจัดไขมันออกไปครับ
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกดปุ่ม Share ด้านล่างด้วยนะครับ ขอบคุณครับ