บันทึกแคลอรี่ มี App ไหนที่ใช้แล้วดีบ้าง?
บันทึกแคลอรี่ ทุกวันนี้ทั้งง่ายทั้งสะดวก เพราะมี Application ที่เราสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีบนมือถือ
งานวิจัยยังพบว่า การบันทึกข้อมูลอาหารจะช่วยให้เราจัดการกับปริมาณแคลอรี่ในช่วงลดน้ำหนักได้ดีขึ้น
ในบทความนี้ ผมโค้ชเค จะมาแนะนำ 5 แอพบันทึกแคลอรี่ที่ดีที่สุดที่สาวๆต้องมีติดเครื่องไว้ครับ
บันทึกแคลอรี่ ดีอย่างไร ยากหรือเปล่า?
งานวิจัยเผยว่าคนที่บันทึกแคลอรี่ประจำจะสามารถลดน้ำหนักได้ผลเร็วกว่าและไม่มีโยโย่ เอฟเฟกต์ (Yoyo Effect) ในอนาคตด้วย
ทุกวันนี้เทรนด์สุขภาพมาแรง บริษัทยักษ์ใหญ่หลายเจ้าจึงสร้างแอพพลิเคชั่น (Application) เพื่อให้เราบันทึกแคลอรี่ได้ง่ายขึ้น สะดวก และรวดเร็ว
ขั้นตอนการสมัครก็ไม่ยุ่งยากเลย ที่ที่เราสามารถใช้บัญชีโซเชียล เช่น Facebook สมัครได้เลย ที่เด็ดไปกว่านั้น แอพทุกตัวถูกพัฒนามาเพื่อให้ใช้ได้ทั้งกับมือถือระบบ iOS และ Android ด้วย
เอาหละมาดู Application ตัวแรกกันเลยครับ
MyFitnessPal
MyFitnessPal ถือได้ว่าเป็นแอพที่ใช้สำหรับ บันทึกแคลอรี่ที่ดีที่สุดตอนนี้ เพราะนอกจากจะบันทึกแคลอรี่ได้สะดวกและรวดเร็วแล้ว เราสามารถบันทึกน้ำหนักและ คำนวณแคลอรี่ที่เราต้องกินต่อวันได้ด้วย
วิธีใช้งานก็ง่าย มีเมนูอาหารไทยให้เลือกด้วย เพราะคนไทยใช้กันเยอะ ก่อนซื้อของกินในห้าง ถ้าอยากรู้ข้อมูลโภชนาการ แค่เปิดกล้องสแกนบาร์โค้ด MFP ก็จะแสดงข้อมูลและบันทึกทุกอย่างให้เราโดยอัตโนมัติ
หน้าแรก (ทั้ง Website และ Application) จะแสดงผลเลยว่าวันนี้เรากินไปกี่แคลอรี่ เหลือกินได้อีกกี่แคลอรี่ และเผาผลาญไปกี่แคลอรี่แล้ว (ถ้าเราบันทึกการออกกำลังกายเข้าไปด้วย)
ถ้าเราใช้งานพวก Smart Watch เราสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจาก MyFitnessPal เข้าอุปกรณ์ได้เลย
ใครชอบการแข่งขันและความท้าทาย MyFitnessPal จะบันทึกประวัติความฟิตของเราทุกอย่าง ข้อมูลนี้เราสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับสมาชิกคนอื่นๆได้ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้เราและคนอื่นๆมีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้น
อีกทั้งเรายังสามารถพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูล แชร์ประสบการณ์และเมนูอาหารเพื่อสุขภาพกับสมาชิกคนอื่นๆได้ด้วย
MyFitnessPal มีฐานข้อมูลเมนูอาหารที่ใหญ่มาก (อย่างที่บอกมีอาหารไทยด้วย) มีเมนูอาหารมากกว่า 5 ล้านเมนูจากทั่วโลก
แต่ถ้าใครทำอาหารกินเอง เราสามารถกำหนดปริมาณแคลอรี่และสารอาหารเอง แล้วโหลดข้อมูลเข้าไปในแอพได้เลย หรือถ้าจะโหลดสูตรอาหารจากอินเตอร์เน็ตใส่เข้าไปในแอพเลยก็ได้เหมือนกัน
เมื่อเราใช้งานบ่อยๆ MyFitnessPal จะบันทึกเมนูที่เรากินประจำไว้ เวลาจะบันทึกอีกที เราก็จะเห็นเป็นเมนูต้นๆเลย
สัดส่วนของสารอาหารหลัก (Macronutrients) ในแต่ละวัน (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน) จะนำเสนอเป็นสถิติ (แผนภูมิวงกลม: Pie Chart) เพื่อให้เราเห็นว่าปริมาณเป็นไปตามที่เรากำหนดหรือเปล่า ถ้าต้องการบันทึกข้อมูลพิเศษเพิ่มเติม MyFitnessPal มีฟังก์ชั่นสมุดโน๊ตให้อีกด้วย
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้าว่า MyFitnessPal ใช้งานฟรีตลอดชีพ แต่ถ้าใครอยากจะเพิ่มฟังก์ชั่นแบบ Premium ราคาจะตกอยู่ที่ 49.99 ดอลลาร์/ต่อปี (ทนรำคาญโฆษณาหน่อย แต่ไม่ต้องเปลืองเงินครับ)
ข้อดี
- MyFitnessPal มีฐานข้อมูลเมนูอาหารที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้ เมนูส่วนใหญ่มีครบ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย Fast Foods หรือแม้แต่เมนูตามร้านอาหารทั่วไป (ตามสั่งด้วยนะ)
- แค่เราโหลดสูตรอาหารจากอินเตอร์เน็ตมา แอพจะคำนวณแคลอรี่ และ Macronutrients เอง
- ถ้าใครกินเมนูเดิมทุกวัน แอพมีฟังก์ชั่น “Quick Add” ที่จะช่วยให้เราคัดลอกประวัติเมนูอาหารทั้งหมดจากวันก่อนหน้า แล้วเพิ่มลงไปในวันที่เราต้องการได้เร็วขึ้น
ข้อด้อย
- เราต้องระวังเมนูที่ผู้ใช้คนอื่นโหลดเข้ามา เพราะปริมาณแคลอรี่และสัดส่วนของสารอาหารหลัก อาจจะไม่แม่น และยังไม่ได้รับการรองรับจากเจ้าของแอพพลิเคชั่น
- MFP คำนวณแคลอรี่ให้เรากินเยอะเกินไป ดังนั้นเราต้องคำนวณพลังงานแคลอรี่ต่อวันเองก่อน แล้วค่อยเอาข้อมูลไปใส่ (คำนวณแคลอรี่ คลิกตรงนี้)
- Serving Size หรือ หนึ่งหน่วยบริโภค บางเมนูอาจจะแก้ไขยาก เช่น บางเมนู เราอยากได้หน่วยเป็นกรัม แต่ แอพ มีแต่เป็นออนซ์ (Ounce) เป็นต้น
เพิ่มเติม: Website |แอพสำหรับ iPhone | แอพสำหรับ Android |Video แนะนำการใช้งาน
Cron-o-Meter
Cron-o-meter เป็นตัวช่วยในการบันทึกข้อมูลอาหาร ประวัติการออกกำลังกาย และน้ำหนักตัว ฐานข้อมูลการออกกำลังกายและอาหารค่อนข้างแน่น
อีกทั้งยังมีการตั้งค่าโปรไฟล์แบบพิเศษ เช่น การตั้งค่าการกินอาหารและการออกกำลังกายสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่ให้นมลูก เพราะว่าคุณแม่หลังคลอดที่ให้นมลูกต้องการปริมารแคลอรี่ที่มากกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
ถ้าใครกำลังลดน้ำหนักด้วยสูตรลดน้ำหนัก ที่เป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้ เช่น Paleo Diet, Keto Diet (กินไขมันเพื่อลดไขมัน) แค่เราเลือกสูตรลดน้ำหนัก แอพจะคำนวณและตั้งค่าตามลักษณะของสูตรนั้นๆ โดยที่เราไม่ต้องไปตั้งค่าทีละอย่างให้ยุ่งยากเหมือนแอพตัวอื่น
การแสดงผลหน้าจอหลักๆก็จะเหมือน MyFitnessPal ต่างกันนิดหน่อยตรงที่การจัดเรียงข้อมูลและสีสันที่ที่ดูหลากหลายขึ้น
ส่วนตัวผมมองว่า Cron-o-meter สามารถบันทึกข้อมูลพวกวิตามินและแร่ธาตุ (Micronutrients) ได้ดีกว่า แอพตัวอื่น
ถ้าไม่อยากเห็นโฆษณา อยากดูข้อมูลเชิงลึก และเพิ่มฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็จะต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 3 ดอลลาร์ต่อเดือนครับ
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- เชื่อมต่อข้อมูลกับอุปกรณ์ต่างๆได้ดี เช่น Smart Watch
- บันทึก Micronutrients ได้ดี (วิตามินและแร่ธาตุ)
ข้อด้อย
- ไม่แบ่งอาหารออกเป็นมื้อ
- เมนูที่เราคิดขึ้นมาเอง โหลดข้อมูลผ่านเว็บไซต์ได้อย่างเดียว (โหลดผ่านแอพในมือถือไม่ได้) หลังจากโหลดเข้าเว็บไซต์ เมนูถึงจะใช้กับมือถือได้ สำหรับบางคนอาจจะยุ่งยากเกินไป
- ไม่มีการตอบโต้กับผู้ใช้คนอื่นๆ
- ถ้าใช้งานแค่บนเว็บไซต์เราจะไม่ต้องเสียเงิน แต่ถ้าอยากใช้แอพด้วย ต้องจ่าย 2.99 ดอลลาร์
เพิ่มเติม: Website | แอพสำหรับ iPhone | แอพสำหรับ Android | Video แนะนำการใช้งาน
Lose It!
Lose It เป็นอีกเจ้าหนึ่งที่ช่วยให้เราบันทึกแคลอรี่ได้ดี เพราะมีฐานข้อมูลอาหารเยอะ และบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายได้ด้วย คนที่มีเครื่องนับก้าว หรืออุปกรณ์อื่นๆ สามารถเชื่อมต่อข้อมูลเข้าไปในแอพได้เลย
แอพจะคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายเราต้องการต่อวัน เพื่อให้เราลดน้ำหนักให้ได้ผล ซึ่งปัจจัยจะขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ และเป้าหมายของเรา
การใช้งานก็ง่าย มีไอคอนเก๋ๆสำหรับแต่ละเมนู เวลาจะเพิ่มเมนูส่วนตัวที่เราคิดขึ้นมาเองก็สะดวก มีตัวสแกนบาร์โค้ด รูปแบบการแสดงข้อมูลก็หลากหลาย เราสามารถเลือกว่าจะให้แสดงข้อมูลเป็นแบบประจำวันหรือแยกเป็นแต่ละอาทิตย์/เดือน ข้อมูลจะถูกจัดเรียงในรูปแบบกราฟเพื่อให้เข้าใจง่าย
เราสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกับผู้ใช้คนอื่นๆได้ แถมยังมีปุ่ม “Challenge” ที่เราสามารถกดรับคำท้าจากคนอื่นหรือเราจะสร้างเป้าหมายเพื่อท้าทายตัวเราเองก็ได้
ถ้าใครอยากจะได้ฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่ม เช่น เพิ่มพื้นที่ในการบันทึกข้อมูล ก็ต้องซื้อแบบ Premium ราคาจะตกอยู่ที่ 39.99 ดอลลาร์ต่อปี
ข้อดี
- เขามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยกรองข้อมูลอาหารในแอพอยู่แล้ว เราจึงมั่นใจได้ว่าอาหารส่วนใหญ่ที่เราเห็น ปริมาณแคลอรี่และสารอาหารมีความแม่นยำกว่าที่อื่น
- เราสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนความจำเพื่อบันทึกแคลอรี่ได้
ข้อด้อย
- การโหลดเมนูส่วนตัว ยุ่งยากเกินไป
- ไม่บันทึกข้อมูลวิตามินและแร่ธาตุ (Micronutrients)
- เครื่องหมาย สัญลักษณ์ต่างๆใน แอพ ค่อนข้างจะสับสน
เพิ่มเติม: Website | แอพสำหรับ iPhone | แอพสำหรับ Android | Video แนะนำการใช้งาน
Fat Secret
Fat Secret คือ แอพพลิเคชั่นบันทึกแคลอรี่อีกเจ้าที่เราใช้งานได้ฟรี ฟังก์ชั่นในการทำงานก็เหมือนกับทุกเจ้าที่ผมกล่าวมาก่อนหน้า มีฐานข้อมูลอาหาร ฟังก์ชั่นบันทึกน้ำหนัก บันทึกสูตรอาหาร และบันทึกการออกกำลังกายก็ครบ ใครที่ซื้ออาหารกินบ่อยๆ เขาก็มีตัวสแกนบาร์โค้ดให้ด้วยเหมือนกัน
แอพจะแสดงปริมาณแคลอรี่ และสารอาหารหลัก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เป็นสัดส่วนในแต่ละวัน และแยกย่อยเป็นมื้อด้วย อีกทั้งเรายังสามารถเลือกที่จะดูการบันทึกแคลอรี่ภายใน 1 เดือนย้อนหลังได้อีก
แอพยังมีฟังก์ชั่นที่เราสามารถสื่อสารและแชร์ข้อมูลของเรากับผู้ใช้คนอื่นๆ เว็บไซต์ของ Fat Secret มีข้อมูลสุขภาพและการออกกำลังกายที่เยอะมาก จึงเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการกินอาหารและลดน้ำหนักที่ดี
ข้อดี
- มีเมนูอาหารที่หลากหลาย เช่น เมนูส่วนใหญ่ที่เรามักจะเจอในร้านอาหารและในห้างสรรพสินค้า
- เมนูอาหารที่โหลดโดยผู้ใช้งานคนอื่น มีการแบ่งแยกอย่างชัดเจน จึงช่วยให้เราสามารถเลือกเมนูที่ผ่านการกรองข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่ลดน้ำหนักแบบ “พร่องแป้ง” เช่น Keto Diet เพราะแอพพลิเคชั่นจะแสดงค่าปริมาณสุทธิของคาร์โบไฮเดรตให้ด้วย
ข้อด้อย
- หน้าจอใช้ดูไม่เรียบง่าย มีสิ่งที่ไม่จำเป็นเยอะแยะเกินไป
เพิ่มเติม: Website | แอพสำหรับ iPhone | แอพสำหรับ Android
SparkPeople
Sparkpeople แอพนี้ผมยอมรับว่าใช้งานง่ายจริง เพราะถ้าใครกินแบบเดิมเกือบทุกวันเหมือนผม แค่คัดลอกรายการอาหารจากวันก่อนหน้า แล้วไปวางไว้ในวันต่อๆไปได้เลยทีละหลายๆวัน
การแสดงผลก็ชัดเจน ถ้าเลื่อนลงไปข้างล่าง เราจะเห็นปริมาณแคลอรี่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน และเราสามารถเลือกให้แสดงผลเป็นแบบแผนภูมิวงกลมได้ด้วย
แอพมีฟังก์ชั่นสแกนบาร์โค้ด จะเพิ่มเมนูส่วนตัวก็ง่าย SparkPeople มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารและการออกกำลังกายที่คอยกรองข้อมูล ข้อมูลในเว็บไซต์จึงน่าเชื่อถือ จำนวนผู้ใช้งานก็มีเยอะติดอันดับโลกเลย
เวอร์ชั่นฟรีมีฐานข้อมูลอาหารและโภชนาการที่เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใครอยากได้ฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่ม ก็ต้องอัพเกรดเป็นแบบ Premium ครับ
ข้อดี
- ข้อมูลบนเว็บไซต์มีครบทุกหัวข้อที่เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย
ข้อด้อย
- ข้อมูลที่มีเยอะอาจจะทำให้คนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานสับสนได้
- ข้อมูล บทความ และแอพ จะถูกแยกออกเป็นหัวข้อยิบย่อย เช่น ข้อมูลสำหรับคุณแม่ให้นมลูก และสูตรอาหารแบบต่างๆ
- บางทีก็ใส่ข้อมูลส่วนตัวเข้าไปยากมาก
เพิ่มเติม: Website | แอพสำหรับ iPhone | แอพสำหรับ Android
คำแนะนำจากโค้ชเค
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ แอพในการบันทึกปริมาณแคลอรี่ เพราะต้องการความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกที่รวดเร็ว การวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำขึ้น และแถมยังสามารถแชร์อวดเพื่อนและผู้ใช้คนอื่นๆได้อีก
การบันทึกข้อมูลอาหารที่เรากินเข้าไปต่อวัน จะช่วยให้เรามีสติในการเลือกกินอาหารมากขึ้น เพราะหลายคนไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่กินเข้าไปมีส่วนผสมอะไรบ้าง ให้พลังงานกี่แคลอรี่ และไม่ดีต่อสุขภาพยังไง
แต่การนับแคลอรี่หรือบันทึกแคลอรี่ ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องทำทุกวันหรือตลอดไป จุดประสงค์หลักของการบันทึก คือ ให้เรารู้หลักการกินให้ถูกต้องและกะปริมาณแคลอรี่ต่อหน่วยบริโภคให้ถูกต้อง
เราต้องทำให้เราชินกับการบันทึกก่อน เริ่มแรกผมยอมรับว่ามันอาจจะน่าเบื่อและหลายคนอาจจะคิดว่า “จะทำไปทำไม” แต่ถ้าเราบันทึกแคลอรี่ไปสักพัก เราจะรู้พฤติกรรมการกินของเราได้ดีขึ้น พอมองเห็นปัญหา เราจะแก้ไขได้ตรงจุดครับ
ถ้าคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ รบกวนกด Share เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ