ไมโครเวฟ อันตรายจริงหรือเปล่า?
ผมเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนไม่ค่อยได้มีเวลาทำกับข้าว และเรื่องซื้อถังแก๊สมาปรุงอาหารยิ่งลืมไปได้เลย ไมโครเวฟ (Microwave) จึงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น เพราะใช้อุ่นอาหารได้ และแถมรุ่นใหม่ๆทุกวันนี้ยังทำได้หลายเมนูด้วย
แต่เคยสงสัยไหมครับว่า ถ้าอุ่นอาหารในไมโครเวฟกินทุกวัน จะทำให้เกิดอันตรายหรือเปล่า? คลื่นจากไมโครเวฟ เข้าไปทำลายสารอาหาร และทำให้เกิดสารก่อมะเร็งไหม?
ผมก็เป็นอีกคนที่อุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟเป็นประจำ ดังนั้นเรามารู้คำตอบพร้อมกันเลยครับว่า ตกลง การอุ่น/ทำอาหารในไมโครเวฟ ปลอดภัยหรืออันตรายกันแน่?
เตาไมโครเวฟ (Microwave)
เตาไมโครเวฟ หรือ เตาอบไมโครเวฟ (Microwave Oven) กลายมาเป็นเครื่องมือประกอบอาหารของทุกครัวเรือน โดยเฉพาะผู้หญิงที่พักอยู่คอนโด
เตาไมโครเวฟทำงานอย่างไร?
การทำงานของไมโครเวฟก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยครับ เตาจะยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เหมือนคลื่นวิทยุ) ที่มีความถี่ที่ 2, 450 เมกกะเฮิร์ต ทำให้โมเลกุลของ น้ำ ไขมัน และน้ำตาล ในอาหารที่เราเอาใส่เข้าไป สั่นและหมุนวนไปตามความถี่ของคลื่นเตาไมโครเวฟ และเกิดความร้อนขึ้นในที่สุดครับ
โดยทั่วไป คลื่นไมโครเวฟก็เหมือนคลื่นสัญญาณโทรศัพท์และคลื่นสัญญาณวิทยุนี่แหละครับ มันไม่ได้มีสารตกค้างในอาหาร หรือก่อให้เกิดโรคมะเร็งเลย
อย่างที่ผมเกริ่นไป คลื่นไมโครเวฟจะทำให้น้ำในอาหารมีอุณภูมิสูงขึ้นเท่านั้น ส่วนภาชนะที่ใส่อาหาร จะไม่มีผลกระทบใดๆจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเลย การที่ถ้วยลวกมือตอนเราหยิบออกนั้น ความร้อนมาจากอาหารครับ
แต่ข้อควรระวัง คือ วัตถุที่เป็นโลหะ เช่น ช้อนและซ่อม จะสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไปมา จึงอาจจะทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดได้ ก่อนที่จะอุ่นอาหารตรวจดูด้วยว่ามีช้อนซ่อมติดไปด้วยหรือเปล่า
อีกอย่าง ภาชนะที่ใส่ในไมโครเวฟ ควรเลือกแบบที่ใช้สำหรับไมโครเวฟเท่านั้น เพราะภาชนะพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะปล่อยสารเคมีออกมาผสมกับอาหาร และเป็นอันตรายได้ครับ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไมโครเวฟ
ถึงแม้ว่าไมโครเวฟจะเป็นเครื่องประกอบอาหารในทุกครัวเรือน แต่มันก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะอีกฝ่ายก็บอกว่าไม่มีอันตรายใดๆต่อสุขภาพ และอีกฝ่ายก็บอกว่า ไม่จริง เพราะคลื่นแม่เหล็กทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง ตกลงใครถูก?
เอาเป็นว่า เรามาดูความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไมโครเวฟ แล้วตัดสินใจเองดีกว่า
ไมโครเวฟ คือ ต้นเหตุของโรคมะเร็ง
ผมเชื่อหลายคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้างว่า คลื่นแม่เหล็กจากไมโครเวฟจะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) เพราะจะว่าไปแล้วมันก็เป็นเหมือนรังสีชนิดหนึ่ง ว่าไหมครับ?
จริงแล้ว American Cancer Society (ACS) เขาได้ทำการศึกษาและพบว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากไมโครเวฟ มีการทำงานเหมือนคลื่นรังสีจริง แต่มันเป็นรังสีที่อ่อนมาก เมื่อเปรียบเทียบกับรังสีจากเครื่อง X-Rays และจากแสงแดด
แต่เขาก็เตื่อนมานะครับว่า เครื่องไมโครเวฟที่เก่าและชำรุดอาจจะมีรังสีแผ่ออกมาเยอะเกินไปได้ ดังนั้นเราต้องให้แน่ใจว่า เวลาอุ่นอาหารฝาไมโครเวฟปิดแน่นสนิท ไม่มีรอยรั่วหรือชำรุดของยางรัดขอบฝาปิด
ถ้ามีสงสัยว่าอุ่นอาหารไม่ร้อนเหมือนเดิม หรือความผิดปกติอื่นๆ ควรรีบเอาไปซ่อมหรือปรึกษาช่างของบริษัทดีกว่าครับ
ตัดมาที่สารก่อมะเร็งดีกว่า จริงๆแล้วสารนี้ส่วนใหญ่จะมาจากมลพิษ เช่น ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันบุหรี่ และอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก ฟาสต์ฟู้ด เนื้อสัตว์ที่ปรุงแต่งรสชาติ และอาหารย่างไหม้เกรียม เป็นต้น นี่ต่างหากครับที่เราต้องระวังให้มากที่สุด
คลื่นแม่เหล็กจะเข้าไปทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์
สารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินที่ละลายในน้ำอย่าง วิตามินซี และวิตามินบี แค่โดนความร้อนนิดหน่อยก็สลายไปกับความร้อนและสายลมแล้วครับ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการประกอบอาหารแบบไหน ถ้ามีความร้อนเข้ามาเอี่ยว สารอาหารก็จะถูกความร้อนทำลายได้เหมือนกัน ไม่ใช่แค่ความร้อนจากคลื่นแม่เหล็กในไมโครเวฟอย่างเดียว
อีกทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมายืนยันแล้วว่า อาหารที่อุ่นในไมโครเวฟปลอดภัยต่อสุขภาพ และสารอาหารที่หายไปก็เทียบเท่ากับการปรุงอาหารบนเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้าเหมือนกัน
องค์การอนามัยโลกยังแนะนำ เทคนิคในการอุ่นอาหารที่มีความหนา เช่น เนื้อสัตว์ ว่าเราควรตั้งเวลาและความร้อนให้เหมาะสมกับอาหารนั้นๆ
เนื้อบางชิ้นที่หนาเกินไป คลื่นไมโครเวฟอาจจะเข้าไม่ถึง บางทีแบคทีเรียยังมีชีวิตอยู่และอาจจะทำให้ท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้
วิธีแก้คือ เราควรทิ้งไว้ก่อนสักพัก ให้ความร้อนจากน้ำและน้ำมันค่อยๆซึมเข้าไป และฆ่าเชื้อแบคทีเรียครับ
ส่วนผักต่างๆ เราควรใช้เวลาทำให้น้อยที่สุดและต้องให้แน่ใจว่าผักสะเด็ดน้ำดีแล้ว เพราะผักจะสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุง่ายมากเมื่อโดนความร้อน
ภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ ใส่อุ่นอาหารได้หมด!
จริงๆแล้ว ภาชนะที่ดีที่สุดสำหรับอุ่นอาหารในไมโครเวฟ คือ ภาชนะที่เป็นเซรามิก (Ceramic) และแก้ว (Glass) ครับ
แน่นอนว่าทุกวันนี้มีภาชนะที่เขียนว่าใช้สำหรับไมโครเวฟ “Microwave Safe/BPA Free” แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่าพลาสติกเมื่อโดนความร้อนก็จะปล่อยสารเคมีไปสู่อาหารเหมือนกันทุกชนิด
ดังนั้นเราอย่าเสี่ยงเลยดีกว่าครับ ถ้าไม่ลำบากอะไรก็ควรเทอาหารใส่จานชามที่เป็นแก้วหรือเซรามิกดีกว่า
คำแนะนำจากโค้ชเค
ก่อนไปก็ไม่มีอะไรมากครับ อยากบอกแค่ว่า การอุ่นอาหารในไมโครเวฟไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างที่หลายคนกลัว
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราควรตรวจดูสภาพเบื้องต้นของเตาไมโครเวฟที่บ้านด้วย ว่ามีรอยรั่งตรงไหนหรือเปล่า ถ้าอาหารไม่ร้อน หรือเครื่องมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบนำไปซ่อมหรือปรึกษาช่างบริษัททันที
ส่วนภาชนะที่ใช้กับเตาไมโครเวฟ ควรเป็นแก้วหรือเซรามิกจะดีกว่าพลาสติก อย่าเสี่ยงกับสารเคมีเลยครับ ถึงแม้ว่ามันจะเขียนว่า “BPA Free” ก็ตาม
ท้ายสุด อย่ากลัวการกินอาหารที่มีประโยชน์ที่อุ่นจากเตาไมโครเวฟครับ กลัวการกินอาหารขยะที่มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองดีกว่า
ถ้าชอบบทความที่ผมเขียน รบกวนกดปุ่ม Share ด้านล่างด้วยนะครับ