คุณแม่ ที่มี 3 นิสัยต่อไปนี้ สุขภาพดีทุกวัน
คุณแม่ สำหรับผมแล้ว เขาคือมนุษย์ที่ต้องทำเพื่อคนอื่นอยู่ตลอดเวลา การที่จะหาเวลาจะมาดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายฟิตหุ่น และลดน้ำหนัก แทบจะไม่มีเลย
คุณแม่หลายท่านที่ผมรู้จัก รู้ดีอยู่แล้วว่าต้องดูแลร่างกายอย่างไรบ้าง เช่น ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน กินอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มจัด และไม่กินเยอะจนน้ำหนักเกิน แต่พอมีลูกเหมือนโลกของคุณแม่ส่วนใหญ่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะต้องดูแลลูก ซักเสื้อผ้า ทำงานบ้าน ทำอาหาร ซื้อของเข้าบ้าน ฯลฯ
คุณแม่ ต้องดูแลสุขภาพอย่างไรดี?
สวัสดีครับพบกับผม โค้ชเค อีกครั้ง วันนี้ผมมีสาระดีๆมาฝากเช่นเคย แต่วันนี้พิเศษหน่อยคือ ผมจะมาแนะนำวิธีดูแลสุขภาพสำหรับคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาโดยเฉพาะ ตามมากันเล้ยยย…
คิดให้มาก ก่อนตามใจปาก
คุณแม่ Full-time ส่วนใหญ่มักจะกินอาหารที่ลูกกินเหลือ เพราะเสียดายของ พอกินไปเรื่อยๆทีละนิดทีละหน่อย แคลอรี่ก็สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เด็ก 1-5 ขวบ มักจะมีของกินเล่นตลอดเวลา ทำให้แม่ๆต้องกินมากขึ้นตามมา ดังนั้นคุณแม่ต้องเรียนรู้ที่จะกินแบบมีสติ พยายามกินอาหารให้ครบแค่ 3 มื้อพอ
มีสารอาหารหนึ่งที่คุณแม่ส่วนใหญ่ขาดกันมากคือ โปรตีน รู้ไหมครับว่าโปรตีนสำคัญมากต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย ช่วยให้เราอิ่มท้องนานขึ้น รักษาปริมาณมวลกระดูกและมวลกล้ามเนื้อไม่ให้หายไปตามอายุที่มากขึ้น
ท่องไว้เลยครับว่า โปรตีน คือ สารอาหารที่จำเป็น ในหนึ่งวันคุณแม่ต้องเน้นกินอาหารจำพวก ปลาทะเล ข้าวโอ๊ต บร็อคโคลี เนื้อสัตว์ (ติดมันน้อย) ไข่ อกไก่ ถั่วอัลมอนด์ และผลิตภัณฑ์นม เป็นต้นครับ
เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น
คุณแม่กว่า 90% จะไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายเลย ดังนั้นเราต้องมาปรับการออกกำลังกายให้เข้ากับชีวิตประจำวันคุณแม่ให้ได้มากที่สุด
มีท่าออกกำลังกายอยู่ที่หนึ่งที่เน้นบริหารกล้ามเนื้อลำตัว (Core Muscles) โดยตรงเลย นั่นคือ ท่าแพลงค์ (Plank)
วิธีทำท่า Plank รูปภาพจาก www.fitandsound.com
รู้ไหมครับถ้าคุณแม่ทำท่าแพลงค์ไปเรื่อยๆ กล้ามเนื้อหน้าท้องจะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
กิจกรรมที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำคือ กิจกรรมต่างๆที่เล่นกับลูก เช่น เดินเล่นหรือปั่นจักรยานรอบหมู่บ้าน และเล่นแกว่งชิงช้ากับลูก ฯลฯ
กิจกรรมกลางแจ้งส่วนใหญ่ล้วนแต่ช่วยให้หัวใจเราเต้นเร็วขึ้น และร่างกายเราก็จะเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้นไปด้วยครับ
อีกอย่าง วิธีออกกำลังกายที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับเราที่สุด คือ วิธีที่เราชอบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน เดินเร็ว วิ่ง ฯลฯ ขอให้เราชอบไว้ก่อน ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ยิ่งกิจกรรมไหนที่ทำได้พร้อมกันทั้งครอบครัว ยิ่งจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น วิธีออกกำลังกายที่ผมแนะนำประจำคือ เวท เทรนนิ่ง (Weight Training) และเดินเร็วครับ
ผ่อนคลาย สบายๆ
ในเมื่อเราไม่สามารถหลีกหนีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน ดูแลลูก ซื้อของ ฯลฯ เราอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเราใหม่และถามตัวเองว่า จะทำยังไงเราถึงจะสนุกกับกิจกรรมเหล่านี้
นักวิจัยพบว่า การฟังเพลงระหว่างทำงานบ้าน เช่น รีดผ้า ล้างจาน ถูบ้าน ฯลฯ จะทำให้เราสนุกกับมันได้ และช่วงเวลาที่รอลูกกลับจากโรงเรียน พยายามหาหนังเรื่องโปรดมาดู หรือหนังสือเล่มโปรดมาอ่าน ชีวิตจะมีสีสันมากขึ้น ไม่น่าเบื่อเหมือนเดิมแน่นอนครับ
กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ผมอยากแนะนำให้เลี่ยงคือ เล่นมือถือครับ คนไทยเราส่วนใหญ่ติดโซเชียลกันงอมแงม นักวิจัยได้ทำการสำรวจและพบว่า คนส่วนใหญ่ที่เช็คสถาณะในโซเซียลเพราะกลัวพลาดเรื่องราวของเพื่อนๆ และกลัวตัวเองหายไปจากไทม์ไลน์เพื่อนๆ จริงๆแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เราคิดมากไปเอง ดังนั้นพยายามฝึกนิสัยให้ห่างจากมือถือให้ได้มากที่สุดครับ แล้วเอาเวลานั้นไปดูแลสุขภาพตัวเองดีกว่าครับ
ถ้าคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ รบกวนกุ่มปุ่ม Share ด้านล่างด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
