นูเทลลา (Nutella) น้ำตาลเยอะไปไหม?
นูเทลลา (Nutella) น่าจะเป็นเมนูโปรดสำหรับใครหลายคน เพราะ กินง่าย รสชาติอร่อย และยังมีส่วนผสมของ เฮเซลนัต (Hazelnut) ที่มีประโยชน์ด้วย ยาวเป็นหางว่าว เช่น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคมะเร็ง ช่วยเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอด บำรุงผมและเล็บให้แข็งแรง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ฯลฯ
ในบทความนี้ ผมโค้ชเค จะพาทุกคนมาดูว่า เนยถั่วนูเทลลา คืออะไร มีสารอาหารอะไรบ้าง และที่สำคัญ น้ำตาลเยอะขนาดนี้ กินแล้วอ้วนหรือเปล่า? ตามมาเลยครับ
นูเทลลา (Nutella) คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักไหม?
นูเทลลา คือ เนยถั่วที่ทำมาจากเฮเซลนัต (Hazel Nut) ที่ผลิตโดยบริษัท Ferrero ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศอิตาลี บริษัทนี้ยังรั้งตำแหน่งผู้ผลิตช็อคโกแลตที่เยอะที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก คนที่คิดค้นสูตรนูเทลลาขึ้นมาก็คือ Mr. Pietro Ferrero
ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศอิตาลี ขาดแคลนเนยถั่วรสช็อกโกแลต และทุกวันนี้ นูเทลลาก็ได้กลายเป็นเนยถั่วที่นิยมมากที่สุดในโลกแล้ว
บริษัท Ferrero ออกกลยุทธการตลาดเพื่อที่จะกระตุ้นให้คนกินนูเทลลากับอาหารเช้ามากขึ้น (เหมือนแยมผลไม้) ผมว่านี่แหละคือปัญหา เพราะถ้าคนหันมากินเยอะๆ ปัญหาโรคอ้วนน่าจะหนักกว่านี้แน่ๆ เดี๋ยวผมจะบอกว่าทำไม
ตอนหลังบริษัทเน้นโฆษณาไปที่ ความสะดวก และประโยชน์ต่างๆต่อสุขภาพ เขาได้แบ่งหนึ่งหน่วยบริโภค (Serving Size) ให้เล็กลง
บางคนอ่านฉลากอาหาร ก็อาจจะเข้าใจผิดไปเลยว่า นูเทลลาให้พลังงานแคอลรี่ ไขมัน และน้ำตาล ในปริมาณแค่นิดเดียวเอง จริงๆแล้วถ้ามาคิดรวมทั้งกระปุก ปริมาณน้ำตาลสูงจนน่าตกใจเลย และไม่เหมาะกับเด็ก หรือ คนที่ต้องการลดน้ำหนักเลย ต่อไปเรามาดูส่วนผสมของเนยถั่วนูเทลลากัน
ส่วนผสม และข้อมูลโภชนาการ ของนูเทลลา
- น้ำตาล (Sugar): น้ำตาลคือส่วนผสมสำคัญที่สุด และเป็นส่วนผสมที่มีเยอะที่สุดด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตาลที่สะกัดจากหัวบีทและอ้อย
- น้ำมันปาล์ม (Palm Oil): ประโยชน์ของน้ำมันปาล์ม คือ ช่วยให้เรากลืนได้ง่ายขึ้น และตอนทาบนขนมปังก็ไม่เหนียวเหนอะหนะติดมีดด้วย ซึ่งต่างกับเนยถั่วธรรมชาติ 100% ที่จะมีความหนืดมากกว่า
- เฮเซลนัต (Hazel Nuts): นูเทลลาขนาดมาตรฐาน จะมีส่วนผสมของถั่วชนิดนี้ประมาณ 50 เม็ด
- ผงโกโก้ (Cocoa): เมล็ดโกโก้ที่นำมาผลิตเป็นผงโกโก้ ส่วนใหญ่จะมาจากทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งผงนี่แหละครับที่ให้สีและรสชาติเหมือนช็อคโกแลต
- นมผงพร่องมันเนย (Skimmed Milk Powder): นมผง เกิดจากการสกัดเอาน้ำออกจากนมไขมัน 0% นั่นแหละครับ ข้อดีของนมผง คือ มีอายุการเก็บรักษา (Shelf-life) นานกว่านมปกติทั่วไป และแถมยังไม่ต้องแช่ตู้เย็นด้วย
- เลซิตินจากถั่วเหลือง (Soy Lecithin): เป็นตัวยึดส่วนประกอบและวัตถุดิบต่างๆเข้าด้วยกัน นูเทลลาจึงเกาะตัวกันพอดี ไม่หนืด หรือเหลวจนเกินไป
- วนิลลินจากเมล็ดวินิลลา (Vanillin): โดยทั่วไป วนิลลินจะมาจากธรรมชาติ แต่ที่มีอยู่ในนูเทลลาคือสารที่สังเคราะห์ขึ้นมาแทนครับ
กฏหมาย อ.ย. สากล และในประเทศไทย ระบุชัดเจนว่า ผู้ผลิตต้องสำแดงรายการวัตถุดิบและส่วนผสม (Ingredient List) ทั้งหมด และให้เรียงลำดับส่วนผสมจากมากไปหาน้อย นี่คือเหตุผลที่บริษัทต้องสำแดงน้ำตาลเป็นอันดับแรก เพราะว่านูเทลลามีน้ำตาลสูงถึง 57%
สารอาหารและพลังงาน ต่อ 1 หน่วยบริโภค (37 กรัม)
- พลังงาน: 200 แคลอรี่
- ไขมัน: 12 กรัม
- น้ำตาล: 21 กรัม
- โปรตีน: 2 กรัม
- แคลเซียม: 4 % ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
- ธาตุเหล็ก: 4 % ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่า แคลเซียม (Calcium) และธาตุเหล็ก (Iron) น่าจะเอามาเสริมให้มันดูดีขึ้นมากกว่า เพราะจริงๆแล้วนูเทลลา ให้พลังงานจากน้ำตาลและไขมันสูงมากจนเกินความจำเป็นครับ
ทำไมคนถึงเข้าใจว่า นูเทลลาดีต่อสุขภาพ?
ก็ต้องชมนักการตลาดแหละครับ บริษัทได้วางตำแหน่งสินค้าว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ทานง่าย เหมาะสำหรับเด็ก และกินพร้อมอาหารเช้ายิ่งได้ประโยชน์
คำที่เขาใช้ คือ “Simple” คือ เรียบง่าย กินง่าย และ “Quality” ก็คือคุณภาพ (ทางด้านโภชนาการ)
ผู้ผลิตเขาอยากให้เราเห็นแค่ เฮเซลนัท กับ นมผงพร่องมันเนย แค่นั้น เพื่อเบี่ยงเบนความจริงที่ว่า นูเทลลามีน้ำตาลและไขมันที่สูงเกินไป
แน่นอนว่า 99% ของคนส่วนใหญ่จะชอบรสชาติของนูเทลลาอยู่แล้ว แต่นั่นมันเรื่องของรสชาติครับ ถ้าเรามาดูในเรื่องของสุขภาพแล้ว นูเทลลาไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพ สู้เนยถั่ว 100% ของไทยก็ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
น้ำตาลเยอะเกินไป
น้ำตาล (Sugar) คือ ตัวช่วยทำให้นูเทลลามีรสชาติหวาน คนส่วนใหญ่จึงกินจนเบรกไม่อยู่
น้ำตาล เป็นส่วนผสมหลักของเนยถั่วนี้ จะว่าไปแล้ว 1 หน่วยบริโภค (37 กรัม) มีน้ำตาลเยอะถึง 5 ช้อนชา บางทีผมก็คิดว่า เราน่าจะซื้อนมวัวรสช็อกโกแลตมาดื่มแทนดีกว่า เพราะราคาถูกกว่า แถมมีน้ำตาลน้อยกว่าด้วย
องค์การอนามัยโลกได้ออกมาแนะนำด้วยว่า เด็กและผู้หญิงไม่ควรกินน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา หรือ 25 กรัม
ถ้าเราเอาคำแนะนำนี้เป็นที่ตั้ง แค่กินนูเทลลา วันละ 2 ช้อนโต๊ะ (37 กรัม) ปริมาณน้ำตาลก็เกินกว่าที่เขาแนะนำแล้วครับ
หลายคนรู้จักอันตรายจากการกินน้ำตาลเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็น โรคหัวใจ โรคตับ โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง สาเหตุหลักๆ ก็มาจากน้ำตาลทั้งนั้น
ดังนั้นอาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณสูงๆ เช่น นูเทลลา เราควรควบคุมปริมาณให้พอเหมาะกับความต้องการต่อวัน หรือถ้าจะให้ดี คือ เลี่ยงไปเลย
ไขมันก็สูง แคลอรี่จึงสูงไปด้วย
ถึงแม้ว่าหนึ่งหน่วยบริโภค (2 ช้อนโต๊ะ หรือ 37 กรัม) จะให้พลังงานแค่ 200 แคลอรี่ แต่ถ้าเราซื่อสัตย์กับตัวเอง ลองคิดดูสิครับมีใครเปิดกระปุกมาแล้วตักกินแค่ 2 ช้อนโต๊ะ บ้าง?
อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงนั้น พอกินแล้วเบรกแตกกันทุกคนแหละครับ นูเทลลาเป็นอาหารที่มีความหนาแน่นของพลังงานที่สูง เพราะแคลอรี่จากน้ำตาลและน้ำมันปาล์ม
นูเทลลา vs เนยถั่วรสธรรมชาติ อันไหนดีกว่า?
หลายคนอาจจะมองว่านูเทลลาไม่น่าจะเลวร้ายอะไรขนาดนั้นไหม? เพราะดูแล้วมันก็ไม่มีส่วนผสมของ น้ำเชื่อมฟรุกโตส (High Fructose Corn Syrup) ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือส่วนผสมของน้ำมันสังเคราะห์ (ไขมันที่เพิ่มอะตอมไฮโดรเจน หรือ Hydrogenated Oil) และสีผสมอาหารเลย
ส่วนตัวผมคิดว่า นี่คือตัวล่อให้คนหลงคิดว่านูเทลลามีประโยชน์ ทั้งที่จริง มันมีไขมันกับน้ำตาลที่สูงเกินไปครับ
เนยถั่วรสธรรมชาติ ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เหตุผลที่ผมแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นเนยถั่วรสธรรมชาติแทน เพราะปริมาณน้ำตาลกับไขมันน้อยกว่านั่นเอง อีกอย่างนูเทลลามีส่วนผสมของเฮเซนัทก็มีแค่นิดเดียวด้วย ดังนั้นเนยถั่วลิสงรสธรรมชาติที่มีแต่ไขมัน (ดี) โปรตีน และสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆ ยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ผมขอยกตัวอย่าง 1 หน่วยบริโภค ของเนยถั่วรสธรรมชาติที่ผมกินอยู่ประจำ (Healthy Mate) คือ 35 กรัม หรือ 2 ช้อนโต๊ะ จะให้พลังงานและสารอาหารดังนี้
- พลังงาน: 220 แคลอรี่
- ไขมัน: 18 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต: 5 กรัม
- โปรตีน: 10 กรัม
- น้ำตาล: 1 กรัม
- โซเดียม: 5 มิลลิกรัม
- เส้นใยอาหาร: 2 กรัม
เห็นหรือยังครับว่า เนยถั่วรสธรรมชาติถึงแม้ว่าแคลอรี่จะสูงเหมือนกัน แต่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ยิ่งถ้าเราเปรียบเทียบปริมาณน้ำตาล ก็จะเห็นเลยว่าปริมาณต่างกันถึง 20 กรัม ดังนั้นซื้อของครั้งต่อไป พยายามมองหาเนยถั่วรสธรรมชาติมาติดบ้านไว้ดีกว่าครับ
นูเทลลา ไม่ดีขนาดนี้ ต้องงดไปเลยไหม?
ประเด็นที่ผมอยากยกมาให้เห็น คือ ผมอยากให้เราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเจ้าเนยถั่วนูเทลลาครับ ว่ามันไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพ
แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องงดกินไปตลอดชีวิต ถ้าเราสามารถบริหารปริมาณพลังงานแคลอรี่ต่อวันให้พอดี จะกินนูบ้าง มันก็ไม่มีผลต่อน้ำหนักตัวหรอกครับ
ปัญหาหลักๆ คือ อาหารและเครื่องดื่มที่เรากินข้างนอกก็มีส่วนผสมของน้ำตาลที่เยอะอยู่แล้ว ถ้าเรามาเริ่มวันใหม่ด้วยการกินนูเทลลาเป็นอาหารเช้าทุกวัน มันยิ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำตาลตั้งแต่ตื่นนอน และกระตุ้นให้ระดับอินซูลินพุ่งสูงขึ้นด้วย
รู้ไหมครับว่าโดยเฉลี่ยคนไทยเรากินน้ำตาลกันถึงวันละ 20 ช้อนชา ซึ่งมากเกินกว่าปริมาณแนะนำเกือบ 4 เท่า! ดังนั้น การตัดอาหารอย่างนูเทลลาออกไป ก็อาจจะช่วยให้เรากินน้ำตาลน้อยลงได้
ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของนูเทลลา จะกินสัก 1-2 ครั้ง ต่ออาทิตย์ มันก็ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่อย่างที่ผมเกริ่นไปก่อนหน้า นูเทลลาเป็นเหมือนของหวาน ไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพที่เราจะกินได้ทุกวันครับ
คำแนะนำจากโค้ชเค
เนยถั่วนูเทลลา มีรสชาติอร่อยและมีส่วนผสมของเฮเซลนัตด้วย แต่สิ่งที่เราต้องระวัง คือ มันก็มีน้ำตาลและไขมันที่เยอะเกินความจำเป็น ซึ่งพลังงานแคลอรี่ที่เกินมานี้ จะมีผลต่อน้ำหนักตัวได้
แต่ถ้าใครทีชอบรสชาติจริงๆ หรือซื้อมาแล้วไม่อยากทิ้ง ก็ขอให้ตวงดูปริมาณก่อนทุกครั้ง เพื่อควบคุมปริมาณต่อวันครับ
ถ้าชอบบทความที่ผมเขียน อย่าลืมกด Share เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ