เฮอร์บาไลฟ์ คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
สวัสดีครับ โค้ชเค Fitterminal.com
เพื่อนๆเคยคิดอยากที่จะซื้ออาหารเสริมเพื่อมากินแทนมื้ออาหาร และเพื่อลดน้ำหนักหรือเปล่าครับ?
แน่นอนครับว่า Meal Replacement หรือว่า ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร เช่น จากบริษัทเฮอร์บาไลฟ์ อาจจะกินง่าย และมีรสชาติอร่อย
แต่เพื่อนๆเคยสงสัยไหมครับว่า มันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือเปล่า กินไปนานๆแล้วจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายไหม ตับและไตจะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างที่เราต้องรู้?
วันนี้ผมโค้ชเค จะมาบอกทุกอย่างที่เพื่อนๆต้องรู้เกี่ยว Meal Replacements และคอร์สลดน้ำหนักของ Herbalife ตามมาเลยครับ
***บทความนี้มีจุดประสงค์แค่รีวิวโปรแกรม/คอร์สลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์เท่านั้น ผู้เขียนไม่มีจุดประสงค์เพื่อการโฆษณาขายสินค้า และไม่มีลิ้งค์โปรโมทสินค้า (Affiliated Links) ในบทความนี้***
เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife) คืออะไร?
เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife) คือ บริษัทหนึ่งที่อยู่ในธุรกิจขายตรง ที่มีตัวแทนจำหน่ายอยู่กว่า 90 ประเทศ
และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ขายดีของเขา คือ โปรแกรมลดน้ำหนัก ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร (Meal Replacement) และอาหารเสริม (Dietary Supplements)
เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife) ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
หนึ่งในอาหารลดน้ำหนักจากบริษัท Herbalife ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร
หรือ Meal Replacement เพราะมีรสชาติอร่อย และกินง่าย เช่น เราอาจจะผสมกับนมกินได้เลย โดยไม่ต้องเข้าครัว
ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร จึงตอบโจทย์ของการใช้ชีวิตของสาวๆวัยทำงาน เพื่อนๆที่ไม่ค่อยมีเวลา และบางทีก็อยากจะลดน้ำหนักให้เร็วขึ้น
ขั้นตอนการลดน้ำหนักกับ เฮอร์บาไลฟ์ (Herbalife)
1. สั่งซื้อผลิตภัณฑ์
การซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท Herbalife ง่ายมากครับ เราแค่ติดต่อผ่านตัวแทนเพื่อซื้อสินค้า หรือจะซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ E-Commerce ก็ได้
2. เลือกโปรแกรมลดน้ำหนัก
ขั้นตอนต่อมา เราต้องเลือกโปรแกรมลดน้ำหนักที่เข้ากับตัวเรามากที่สุด ซึ่งโปรแกรมลดน้ำหนักจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- โปรแกรม Quickstart: โปรแกรมนี้จะประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร ชา (แบบผง) วิตามินรวม แร่ธาตุ และอาหารเสริมเพื่อเร่งระบบเผาผลาญของร่างกาย (Metabolism Booster)
- โปรแกรม Advance: โปรแกรมนี้จะเหมือนกันกับโปรแกรมแรกทุกอย่าง แต่จะมี อาหารเสริมเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายกักตุนน้ำน้อยลง หรือลดอาการบวมน้ำ (Water Weight) เพิ่มเข้ามาครับ
- โปรแกรม Ultimate: โปรแกรมนี้จะเหมือกันกับโปรแกรม Advance แต่จะมีอาหารเสริมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเข้ามา
ส่วนราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารเสริมที่เราซื้อ คอร์สลดน้ำหนัก 10-15 วัน ราคาก็อาจจะไม่เกิน 3,000 บาท แต่บางคนอาจจะจ่ายมากถึงเดือนละ 10,000 บาท เลยทีเดียว
3. เริ่มต้นลดน้ำหนัก
ในทางทฤษฎี สูตรลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์ทำตามง่ายมากจริงครับ ใน 1 วัน เราจะกินผลิตภัณฑ์แทนมื้ออาหาร 2 มื้อ และอาหารเสริมที่แนะนำในโปรแกรม
ในคอร์สไม่ได้มีข้อจำกัดอะไรเกี่ยวกับการกินอาหาร ไม่มีอาหารต้องห้าม แต่บริษัทจะแนะนำให้เราดื่มน้ำเยอะๆ แบ่งมื้ออาหารให้ได้ประมาณ 4-5 มื้อ และก็มีของกินเล่นระหว่างมื้อ เช่น ผักและผลไม้ เพื่อลดความอยากอาหารด้วย
ระยะเวลาของโปรแกรมลดน้ำหนักจะต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่คนส่วนใหญ่พอลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว จะหยุดซื้อผลิตภัณฑ์ทันทีครับ
เฮอร์บาไลฟ์ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
ข้อดีที่เด่นๆของเฮอร์บาไลฟ์ คือ ความสะดวกครับ เพราะถ้าการลดน้ำหนักมันทำได้ง่ายๆ คนส่วนใหญ่ก็จะสนใจที่จะทำตาม
ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารส่วนใหญ่ จะให้พลังงานแคลอรี่น้อยอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อกินอาหารเสริมที่ช่วยเร่งระบบเผาผลาญพลังงานเพิ่มไปด้วย น้ำหนักและไขมันอาจจะลดลงเร็วขึ้นได้
นี่คือ ปริมาณพลังงานแคลอรี่และสารอาหาร ในผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเฮอร์บาไลฟ์ (1)
- พลังงาน (Calories): 90 แคลอรี่
- โปรตีน (Protein): 9 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต (Carbohydrate): 13 กรัม
- ไขมัน (Fat): 1 กรัม
- เส้นใยอาหาร (Fiber): 3 กรัม
- น้ำตาล (Added Sugar): 9 กรัม
1 หน่วยบริโภค คือ 2 ช้อน หรือ 25 กรัม เมื่อผสมกินกับนมไขมัน 0% ซึ่ง 1 หน่วยบริโภค หรือ 200 มิลลิลิตร จะให้พลังงาน 70 แคลอรี่ สรุปคือ พลังงานแคลอรี่รวมต่อมื้อจะอยู่ที่ 160 แคลอรี่ เท่านั้นครับ
งานวิจัยยังพบว่า ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร สามารถช่วยให้กลุ่มผู้เข้าทดลองลดน้ำหนักได้ดี แต่ควรใช้เพื่อลดนำหนักแค่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
เพราะนักวิจัยแนะนำว่า ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลและไม่กลับมาโยโย่อีก การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน คือ ทางออกที่ดีที่สุดครับ (2)
อาหารเสริมของเฮอร์บาไลฟ์ มีอะไรบ้าง?
อาหารเสริมที่อยู่ในโปรแกรม เบื้องต้นจะมีดังนี้ครับ
-
- Herbal Tea Concentrate (ชาข้มข้น): คือ อาหารเสริมที่เป็นชาชนิดผง มีส่วนผสมของคาเฟอีน (Caffeine) ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มพละกำลัง และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย
- Formula 2 Multivitamin (วิตามินรวม): คือ อาหารเสริมวิตามินรวม และแร่ธาตุอื่นๆที่มีประโยชน์
- Total Control: คือ อาหารเสริมที่ส่วนผสมของ คาเฟอีน ขิง ชาเขียว ชาดำ ชาอู่หลง และทับทิม ซึ่งโฆษณาว่ามีคุณสมบัติช่วยเพิ่มพลัง
- Formula 3 Cell Activator: คือ อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ ALA (Alpha-Lipoic Acid) ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน และเร่งระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย
- Snack Defense: คือ อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ โครเมียม (Chromium) และ ผักเชียงดา (Gymnema Sylvestre) ซึ่งโฆษณาว่ามีฤทธิ์ช่วยดักแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) (3)
อาหารเสริมที่ขายตามท้องตลาดส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีเครื่องหมาย อ.ย. แต่เราก็ต้องระวังไว้ให้ดีด้วยนะครับ
เพราะส่วนใหญ่จะได้แค่ใบรับรองเท่านั้น แต่ผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวนั้นยังไม่ชัดเจน เช่น แร่ธาตุโครเมียมที่อยู่ใน Snack Defense ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป ก็จะกลายเป็นพิษทันทีครับ
อีกอย่างใครที่มีปัญหาสุขภาพ และต้องกินยาที่หมอสั่งเป็นประจำ ก่อนซื้ออาหารเสริมมาทุกครั้ง ต้องปรึกษาแพทย์ประจำก่อน
เพราะอาหารเสริมบางอย่างอาจจะไปยังยั้งการทำงานของยาที่กินอยู่ หรือบางทีก็อาจจะกระตุ้นให้ยาออกฤทธิ์มากเกินไป จนถึงขั้นอันตรายได้ครับ
คอร์สลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์ มีข้อดีอะไรบ้าง?
สะดวกและทำตามง่าย
ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเฮอร์บาไลฟ์ จะช่วยให้คนที่ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร ได้รับสารอาหารที่จำเป็นง่ายขึ้น
เวลาจะกินก็แค่ผสมกับนมเท่านั้น หรือถ้าใครที่อยากจะเพิ่มความหวานแบบธรรมชาติ ก็อาจจะเอาไปปั่นกับผลไม้ก็ได้เหมือนกัน
ถั่วเหลืองมีประโยชน์
ส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเฮอร์บาไลฟ์ คือ ถั่วเหลือง
ซึ่งงานวิจัยพบว่า ถั่วเหลืองมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลเลวในเลือด และลดความเสี่ยงโรคหัวใจด้วย (4)
แต่เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโปรตีนจากถั่วเหลือง เราต้องกินให้ได้มากถึง 50 กรัม ต่อวัน (5)
ซึ่งโปรตีนของเฮอร์บาไลฟ์ ในปริมาณ 2 เสิร์ฟ มีโปรตีนแค่ 18 กรัม เท่านั้น
ดังนั้นผมจึงแนะนำให้กินอาหารที่มีส่วนผสมของถั่วเหลืองเพิ่ม เช่น เต้าหู้สด น้ำเต้าหู้ และถั่วเหลืองอบ เพื่อที่จะได้โปรตีนจากถั่วเหลืองครบ 50 กรัม ต่อวันครับ
ข้อเสียที่ต้องระวัง
เมื่อรู้ข้อดีแล้ว เรามาดูข้อเสียกันต่อเลยครับ จะได้ตัดสินใจถูกว่ามันคุ้มกันหรือเปล่า
ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร คือตัวปัญหา
ใช่ครับ ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเฮอร์บาไลฟ์ คือ ตัวปัญหา เพราะส่วนผสมทุกอย่างได้ผ่านการแปรรูปมาแล้วทั้งนั้น
เช่น วัตถุเจือปนอาหาร อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) โปรตีนสกัด (Protein Isolates) น้ำตาล และวิตามินสังเคราะห์ (Synthetic Vitamins) เป็นต้น
เมื่อดูสัดส่วนของสารอาหารแล้ว ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเฮอร์บาไลฟ์ มีปริมาณน้ำตาลสูงมาก (40% ของพลังงานทั้งหมด)
ซึ่งถ้าเรากินตามคำแนะนำ (2 มื้อต่อวัน) ปริมาณน้ำตาลจะปาเข้าไปถึง 18 กรัม
องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ผู้หญิงไม่ควรกินน้ำตาลมากกว่า 25 กรัม ต่อวัน ลองคิดดูสิครับ
แค่เฮอร์บาไลฟ์อย่างเดียวงบประมาณน้ำตาลก็จะเกินแล้ว
ผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร ที่ไม่ได้ทดแทนอะไรเลย
ประเด็น คือ มีใครอยู่ได้ด้วยการกินอาหารมื้อละ 160-170 แคลอรี่ ไหมครับ?
แน่นอนว่าเราอาจจะเอาเฮอร์บาไลฟ์ไปปั่นกับผลไม้ เพื่อที่จะได้เส้นใยอาหารเพิ่ม แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มนานขึ้นครับ
เพราะร่างกายเราต้องการโปรตีนและไขมัน ซึ่งสารอาหาร 2 ชนิดนี้ จะช่วยให้เราอิ่มท้องนานที่สุดครับ
ราคาแพง
อย่างที่ผมเกริ่นไปครับ คอร์สแค่ 10 วัน เราอาจจะต้องควักเงินจ่ายมากถึง 3,000 บาท
แน่นอนว่าเราอาจจะประหยัดเวลา แต่ก็อย่าลืมมองกลับไปด้วยนะครับว่า เวลาของเรามีค่ามากกว่า 3,000 บาท นี้หรือเปล่า
ลองบริหารเวลามาเตรียมอาหารเอง จะคุ้มกว่าไหมครับ?
อาหารเสริมอาจจะทำให้ตับพังได้
ขอเกริ่นก่อนนะครับว่า อาหารเสริม และยารักษาโรคทั่วไป ก็สามารถมีผลกระทบต่อตับได้เหมือนกัน ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ของเฮอร์บาไลฟ์อย่างเดียว
เฮอร์บาไลฟ์จะแนะนำให้เรากินอาหารเสริมเพิ่มด้วย เพื่อเผาผลาญไขมัน เร่งให้ระบบเผาผลาญทำงานมากขึ้น และเพิ่มพละกำลัง
แต่อาหารเสริมเหล่านี้ยังไม่ได้มีการศึกษาถึงผลลัพท์ในระยะยาวอย่างจริงจัง
มีงานวิจัยที่พบว่า กลุ่มคนที่กินอาหารเสริมจากเฮอร์บาไลฟ์มีปัญหากับตับ จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนถ่ายตับ และบางรายก็ถึงขั้นเสียชีวิต เลยทีเดียวครับ (6) (7)
คำแนะนำจากโค้ชเค (Take Home Message)
โปรแกรมลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์ อาจจะช่วยให้หลายคนลดน้ำหนักได้จริง
เพราะผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารที่อยู่ในคอร์สมีแคลอรี่ต่ำ และการกินอาหารเสริมก็อาจจะช่วยเร่งให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้นได้
แต่การลดน้ำหนักทางลัด ก็มักจะเป็นเหมือนกันครับ คือ อาจจะมีผลข้างเคียงได้ โดยเฉพาะการกินอาหารน้อยเกินไป
จนอาจจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้มีผลข้างเคียงได้ เช่น ผมร่วง และประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นต้น
อีกอย่าง อาหารเสริมที่ใช้ควบคู่กับโปรแกรมลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์ อาจจะมีผลต่อตับ ซึ่งอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนตัวแล้วผมไม่แนะนำให้ทำตามคอร์สลดน้ำหนักของเฮอร์บาไลฟ์ เพราะมันไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักที่ถาวร
แต่ถ้าใครที่อยากจะลองซื้อผลิตภัณฑ์มาลองทำตามดู ผมแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้วครับ
ถ้าชอบบทความนี้ อย่าลืมกด Share ด้วยนะครับ
ไม่พลาดคอนเทนต์ดีๆ Follow Us ตามช่องทางด้านล่างเลยครับ
Fitterminal TV (YouTube) | Fitterminal Facebook | Fitterminal Instagram | Fitterminal.com